หน้าแรก > อาชญากรรม

สตม.แถลง 2 ข่าวใหญ่ หนุ่มจีนเครือข่ายฟอกเงินของขบวนการแก๊ง Call Center กว่า 2,500 ล้านบาท และขบวนการลักลอบขนยาเข้าแดนโสมผ่านพัสดุ ของกลางกว่า 17 ล้านบาท

วันที่ 31 พฤษภาคม 2566 เวลา 23:04 น.


สตม.แถลง 2 ข่าวใหญ่ หนุ่มจีนเครือข่ายฟอกเงินของขบวนการแก๊ง Call Center กว่า 2,500 ล้านบาท และขบวนการลักลอบขนยาเข้าแดนโสมผ่านพัสดุ ของกลางกว่า 17 ล้านบาท

(31 พ.ค.66) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้

1. สตม. รวบหนุ่มจีนเครือข่ายฟอกเงินของขบวนการแก๊ง call center มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท

สืบเนื่องจากการประสานงานกับเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย กรณีผู้ต้องหาตามหมายจับของสาธารณรัฐประชาชนจีนรายสำคัญ คือ MR.XU หรือ นายชู (นามสมมติ) อายุ 40 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นผู้รับหน้าที่ฟอกเงินของขบวนการ แก๊ง call center ที่ตั้งฐานอยู่ในประเทศกัมพูชา มีมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท บก.สส.สตม. ได้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายจนทราบว่า MR.XU ถือหนังสือเดินทางสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ก.พ.63 ด้วยวีช่าท่องเที่ยว
และได้ซ่อนตัวอยู่ในคอนโดหรูแห่งหนึ่งที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงได้เฝ้าดูและติดตามจนพบ MR.XU ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับสาธารณรัฐประชาชนจีน และถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยเป็นการชั่วคราวฯ อยู่บริเวณริมถนนแถวคอนโดดังกล่าว จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและขอทำการตรวจค้น MR.XU ได้สมัครใจพาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเข้าตรวจค้นห้อง ผลการตรวจค้นพบ โทรศัพท์มือถือและบัตรเครดิต จำนวนหลายรายการ จากนั้นจึงได้นำตัวส่ง กก3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการสืบสวนทราบว่า MR.XU มีหน้าที่ฟอกเงินให้แก๊ง call center ที่ตั้งอยู่ที่ประเทศกัมพูชา โดยนำเงินที่แก๊ง call center ได้มาจากการหลอกลวงประชาชนมาเปลี่ยนเป็นเงินสกุลดิจิตอล หรือติดต่อคนที่อยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีนเข้าซื้อทองคำหรืออสังหาริมทรัพย์ จากการตรวจสอบพบว่า ฟอกเงินให้ขบวนการแก๊ง call center มากกว่า 2,500 ล้านบาท

2. สตม.รวบมือขวาขบวนการลักลอบขนยาเข้าแดนโสมผ่านพัสดุ พบของกลางมูลค่ากว่า 17 ล้านบาท ในช่วงระหว่างเดือน มิ.ย.65ถึง มี.ค.66 กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ณ กรุงโชลได้มีปฏิบัติการปราบปรามเพื่อป้องการการระบาดของยาเสพติดบริเวณโดยรอบสถานบันเทิง เช่น ย่านกังนัม และย่านแทวอน จับกุมผู้เกี่ยวข้องในการจัดจำหน่ายยาเสพติดและผู้เสพสารเสพติด ทั้งหมด 70ราย ยึดของกลางยาเสพติดหลายประเภท มีมูลค่าสูงถึง 620ล้านวอน ยึดเงินสดมูลค่า 19.15 ล้านวอน รวมเป็นเงินไทยกว่า 17ล้านบาท

โดยในช่วงดังกล่าว เจ้าหน้าที่สืบสวนของกรุงโซลสืบพบว่า MR.KIM ได้หลบหนีมายังประเทศไทย กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด ณ กรุงโชล จึงได้ประกาศออกหมายแดงของตำรวจสากล (INTERPOL) สถานเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทยจึงประสานมายัง สตม. เพื่อจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของประเทศกาหลีใต้รายสำคัญ คือ MR. KM หรือ นายคิม (นามสมมติ) อายุ 26 ปี สัญชาติเกาหลีใต้

ซึ่งอยู่ในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติรับผิดชอบขนยาเสพติด บก.สส.สตม. ได้สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายจนทราบว่า MR.KIM ถือหนังสือเดินทางประเทศเกาหลีใต้เดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.65 ด้วยวีซ่าท่องเที่ยว และได้หลบช่อนอยู่ในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จึงได้เฝ้าดูและติดตามจนพบ MR.KIM ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกันกับบุคคลตามหมายจับประเทศเกาหลีใต้และได้อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด อยู่บริเวณหน้าหมู่บ้าน จึงแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบ โทรศัพท์มือถือ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.นาจอมเทียน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

จากการสืบสวนทราบว่า MR.KIM จะใช้แอพพลิเคชั่น "เทลแกรม" เพื่อติดต่อซื้อขายยาเสพติดกับลูกค้า และเมื่อมีการตกลงสั่งซื้อ MR.KIM จะแบ่งยาเสพติดให้มีสัดส่วนที่เล็กลงและนำไปไว้ในสถานบันเทิงที่ลับตาคนที่ได้มีการนัดหมายกับผู้ซื้อไว้ล่วงหน้า เพื่ออำพรางไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพบเห็น อีกทั้ง MR.KIM ยังเป็นผู้รับหน้าที่ขนยาเสพติดจากประเทศไทยส่งออกไปยังประเทศเกาหลีใต้

สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม