24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 5 เมษายน 2568

>> จนท.สกัดกั้นยาเสพติด ยึดไอซ์ 300 กก. มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

12.00 น. ที่กรมทหารพรานที่ 21 ตำบลศรีสองรัก อำเภอเมืองเลย จังหวัดเลย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วยนายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ร่วมกันแถลงข่าวปฏิบัติการสกัดกั้น และปราบปรามยาเสพติด Seal Stop Safe ในพื้นที่อำเภอชายแดนของจังหวัดเลย

โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย พร้อมของกลางไอซ์ 300 กิโลกรัม และรถยนต์เก๋ง 2 คัน มูลค่ารวมกว่า 30 ล้านบาท ที่อำเภอปากชม จังหวัดเลย ซึ่งดำเนินการภายใต้นโยบายของรัฐบาลในการผนึกกำลัง 51 อำเภอชายแดน เปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อเร่งรัดการดำเนินการสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนให้เห็นเป็นรูปธรรม มีกำหนดเปิดปฏิบัติการ ระยะเวลา 6 เดือน (1 กุมภาพันธ์ – 31 กรกฎาคม 2568) โดยในห้วงที่ผ่านมา มีสถิติการจับกุมในพื้นที่อำเภอชายแดนของจังหวัดเลย จำนวน 165 ครั้ง ผู้ต้องหา 205 ราย ของกลางยาบ้ามากถึง 6,604,906 เม็ด ไอซ์ 993 กิโลกรัม และเคตามีน 250 กิโลกรัม

>> EVA Air เที่ยวบิน BR67 มุ่งหน้าลอนดอน บินวนน่านฟ้าไทย ก่อนลงจอดฉุกเฉิน สุวรรณภูมิ

13.00 น. เครื่องบินของสายการบิน EVA Air เที่ยวบิน BR67 เส้นทางกรุงเทพฯ-ลอนดอน ออกเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 13.01 น. แต่พบว่าบินวนเหนือน่านฟ้าไทย ทั้งนี้ นักบินตัดสินใจทิ้งน้ำมัน เพื่อให้น้ำหนักเครื่องอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย ก่อนแจ้งลงจอดฉุกเฉินกลับมาที่สนามบินสุวรรณภูมิอย่างปลอดภัย สาเหตุเนื่องจากยางล้อหน้ามีปัญหา

>> ทีมกู้ภัยแคนาดาพร้อม K9 ถึงพื้นที่ตึก สตง.ถล่มแล้ว สนับสนุนภารกิจค้นหาผู้สูญหาย ทหารนำรถมาเสริมกำลัง

13.50 น. เจ้าหน้าที่ทหารนำรถแบคโฮ จำนวน 1 คัน และรถบรรทุก 10 ล้ออีก 1 คัน มาเสริมกำลังในการเข้าปฎิบัติภารกิจช่วยเหลือค้นหาผู้สูญหาย 79 ราย ในซากตึก สตง.ที่พังถล่มเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ผ่านไปแล้ว 193 ชั่วโมง (ณ เวลา 14.30 น.) เข้าสู่วันที่ 9 ในการค้นหาผู้สูญหาย

ขณะที่ทีมกู้ภัยจาก USAR หรือ ยูซาร์จากประเทศแคนาดา จำนวน 9 คน พร้อมสุนัข K9 น้องเปเล่ สุนัขสายพันธุ์ดัตช์เชพเพิร์ด มาลินอยส์ อายุ 5 ขวบ เดินทางถึงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยสนับสนุนภารกิจกู้ภัยของไทย ทั้งนี้ ทีมกู้ภัยนานาชาติ ยังมีอีกหลายทีมที่ยังคงอยู่ในภารกิจการค้นหาผู้ที่ยังติดค้างในซากอาคาร โดยจะแบ่งการทำงานตามความชำนาญของแต่ละประเทศ ซึ่งจะทำงานแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันกับทีมกู้ภัยของไทย

>> ”ปลัดแรงงาน“ ลงพื้นที่ให้กำลังใจ จนท.ในสังกัด จุดตึกสตง.ถล่ม ยันเยียวยาแรงงานไทย-ต่างชาติเต็มที่

14.30 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เดินทางเข้าให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงแรงงาน ที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือบริการแรงงานและญาติผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่ม จากกรณีแผ่นดินไหว

โดย นายบุญสงค์กล่าวว่า วันนี้จนเดินทางลงมาตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ เจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงเเเรงงานทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานประกันสังคมหรือกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ที่ทำหน้าที่ในการช่วยเหลือเยียวยาทั้งลูกจ้างที่เป็นชาวไทยและลูกจ้างชาวต่างชาติอย่างเต็มที่ และอยากจะเดินทางมาชี้แจงให้รับทราบว่า กระทรวงแรงงานจะมีการเข้าเยียวยาดูแลไม่ว่าจะเป็นเเรงงานที่ได้ขึ้นทะเบียนกับประกันสังคมหรือไม่ได้ขึ้นทะเบียนก็ตาม

โดยญาติสามารถมาแจ้งร้องเรียนที่ศูนย์ประสานงานของกระทรวงแรงงาน และช่วยเหลือแรงงานผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวทั่วประเทศ โดยสามารถยื่นเอกสารร้องเรียนได้ภายใน 15 วัน จะมีการอนุมัติจ่ายเงินให้กับญาติของผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บทันที โดยมีค่าเยียวยาหากเสียชีวิตอย่างน้อยรายละ 1 ล้านบาท ในกรณีที่เขาเป็นสมาชิกกองทุนทดแทนและกองทุนประกันสังคม โดยประมาณ ช่วงผู้บาดเจ็บทางเราจะดูแลจนสิ้นสุดการรักษา

ส่วนผู้ที่ว่างงานเนื่องจากนายจ้างไม่ได้มีการจ้างจากเหตุแผ่นดินไหวจะเยียวยา โดยให้เงินค่าว่างงาน 6 เดือน เดือนละ 7,500 บาท

>> ฝนถล่มลำปาง พายุซัดบ้านพังทั้งหลัง ถล่มลงมาทับ ตา-หลาน 3 ชีวิต เพื่อนบ้านเข้าช่วยพาส่งโรงพยาบาล

15.00 น. เกิดพายุฝนฟ้าคะนองในพื้นที่ อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ส่งผลให้มีบ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบหลายแห่ง โดยเฉพาะพื้นที่บ้านศรีลังกา ม.5 ต.เสริมกลาง อ.เสริมงาม จ.ลำปาง พบว่ามีบ้านถูกพายุพัดหลังคาหายไปหลายหลัง ต้นไม้หักโค่น

เบื้องต้น พบว่ามีบ้านเรือนถูกพายุพัดเสียหายทั้งหลังจนถล่มลงมา 1 หลัง ทับตาและหลานชาย รวม 3 คนที่พักอาศัยภายในบ้านได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเพื่อนบ้านได้ให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลแพทย์ตรวจรักษาแล้วพบว่าปลอดภัย ก่อนจะให้เดินทางกลับบ้าน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเสริมงาม เจ้าหน้าที่เทศบาลฯ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งลงพื้นที่สำรวจและให้ความช่วยเหลือแล้ว

>> อธิบดีกรมสุขภาพจิต เผยพบญาติผู้ติดค้างตึกถล่ม มีความเครียดรุนแรง 15 คน เตรียมจัดเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด

15.30 น. นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมญาติผู้สูญหาย ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเยียวยาจิตใจได้เข้ามีส่วนร่วมกันในการทำภารกิจในครั้งนี้ 3 ทีม 1.ทีมงานสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข 2.สำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร และ 3.กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน กระทรวงยุติธรรม พบว่ามีประชาชนเกิดความเครียดสูงจำนวนหนึ่ง แบ่งระดับออกเป็น 3 สี

- สีแดง เป็นประชาชนที่ต้องได้รับยา และต้องพบจิตแพทย์ พร้อมกับต้องดูแลอย่างใกล้ชิด จำนวน 15 ราย จาก 200 ราย

- สีเหลือง คือประชาชนที่ไม่ต้องรับยา แต่ก็ต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกันจำนวนกว่า 100 ราย

ที่เหลือเป็นสีเขียวที่สภาพจิตใจยังคงปกติ ทั้งนี้ ความเครียดอาจจะเกิดขึ้นได้หลายทาง ทั้งสภาพแวดล้อม สภาพอากาศ

โดยทีมแพทย์จะมีการเข้าตรวจเยี่ยมประชาชนทุกวันใน 3ช่วงเวลา ตั้งแต่ 7:00 – 23:00 น. จะแบ่งเป็นตรวจตอนเช้า 2 ชั่วโมง ตอนบ่าย 2 ชั่วโมง และ ตอนเย็น 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็จะให้ญาติผู้ประสบภัยได้พักผ่อน

>> ยายวัย 77 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ สภ.หาดใหญ่ หลอกเงินเก็บจนหมดตัวแถมยืมเพื่อนจนเป็นหนี้

17.00 น. ที่สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นางประพาย อายุ 77 ปี ชาว อ.บางบัวทอง เข้าแจ้งความกับร้อยเวร สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ว่าถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.หาดใหญ่ หลอกให้โอนเงินไปเป็นเงินรวม 68,000 บาท ซึ่งเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตและเป็นเงินที่ไปขอยืมเพื่อนบ้านมา ตอนนี้เดือดร้อนหนักไม่มีเงินใช้จ่ายและไม่มีเงินให้หลาน 2 คนไปโรงเรียน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามเงินจำนวนดังกล่าวคืน เหตุเกิดเมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 4 มเม.ย. 68

จากการสอบถาม นางประพาย อายุ 77 ปี ทราบว่า ตนถูกคนร้ายหลอกให้โอนเงินไป 68,000 บาท เป็นเงินเก็บเล็กเก็บน้อยของครอบครัวตน 28,000 บาท ส่วนเงินอีก 40,000 บาทตนไปขอยืมเขามา ตนอาศัยอยู่กับ สามี อายุ 80 ปี และต้องลี้ยงดูหลานอีก 2 คน อายุ 9 ปี และอายุ 12 ปี ซึ่งพ่อแม่ของกลายทั้ง 2 คนเลิกกันและทิ้งหลานไว้ให้ตนเลี้ยงดู เบื่องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมหลักฐาน พร้อมเบอร์โทรและกมายเลขบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินไป พร้อมประสานแจ้งไปที่ธนาคารเพื่อขออายัดบัญชี ซึ่งต้องรอคำตอบในวันทำการว่าทันหรือไม่ หลังจากนี้จะติดตามเจ้าของบัญชีมาสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

>> ผู้รับเหมาเผาบ้าน! เหตุทำงาน 2 ปีได้เงินแค่หลักร้อย แค้นมาก บุกทุบกระจกและวางเพลิงทาวน์เฮาส์ ย่านนาจอมเทียน

18.00 ร.ต.อ.ยุทธพล บุญเกิด รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาจอมเทียน ได้รับแจ้งมีเหตุบุกรุกเข้าไปวางเพลิงเผาทรัพย์ภายในทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่งใน หมู่ที่ 1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้นปลูกติดกันหลายคูหา พบแสงเพลิงและกลุ่มควันออกมาจากชั้นที่ 1 และชั้น 2 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้นานกว่า 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ โดยชุดสืบสวนสามารถควบคุมตัวนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 57 ปี ผู้ก่อเหตุวางเพลิงในครั้งนี้ไว้ได้ ในที่เกิดเหตุ ก่อนช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล เพราะได้รับบาดเจ็บถูกกระจกบาดที่ขา

จากการสอบสวนผู้ก่อเหตุ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้วางเพลิงเผาทรัพย์จริง เนื่องจากไม่พอใจเจ้าของบ้าน จากกรณีที่ตนรับจ้างซ่อมแซมทาวน์เฮาส์ดังกล่าว และได้เข้าพักในห้องที่เกิดเหตุ ต่อมาได้มาขอพูดคุยและขอเข้าไปนำเสื้อผ้าและข้าวของส่วนตัว แต่ถูกปฏิเสธ ไม่อนุญาตให้เข้าไป โดยเจ้าของบ้านได้นำเสื้อผ้าใส่ถุงผ้าและถุงพลาสติกโยนลงมาให้จากชั้นที่ 2 ทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงทุบกระจกประตูด้านหน้าและก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์ภายในห้องชั้นล่าง จนได้รับความเสียหายดังกล่าว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว ผู้รับเหมาที่ก่อเหตุไปรักษาอาการบาดเจ็บ ก่อนจะทำการควบคุมตัวมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “บุกรุกในเคหสถานและวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น” ตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

>> กองปราบรวบเจ้าของร้านหม่าล่าชื่อดังกลางกรุง ยิงเพื่อนร่วมชาติปางตาย ก่อนหนีไปอยู่กับแฟนชาวจีน

20.00 น. กองปราบปราม จับกุม ชายวัย 52 ปี สัญชาติจีน ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 316/2567 ลงวันที่ 17 พ.ค. 2567 ข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ” พร้อมตรวจยึดใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ประเทศไทย 1 ใบ โดยจับกุมตัวได้ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ย่านสาทร-ราชพฤกษ์ แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ กทม.

สืบเนื่องจากตำรวจได้รับการประสานจากทางการจีนให้ช่วยจับกุม ผู้ต้องหาชาวจีนรายนี้ หลังจากเมื่อปี 2546 ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายโจว เพื่อนร่วมชาติ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่เมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ก่อนจะหลบหนีคดีออกนอกประเทศไปซ่อนตัวอยู่ที่ประเทศเวียดนาม และกัมพูชา เป็นเวลากว่า 20 ปี กระทั่งปัจจุบันได้ย้ายมากบดานอยู่ในประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่นำกำลังจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่บ้านพักในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านถนนราชพฤกษ์ จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง เบื้องต้นจึงนำตัวส่งอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับไปรับโทษยังสาธารณรัฐประชาชนจีนตามขั้นกฎหมายต่อไป