วันที่ 20 มีนาคม. 2568 เวลา 02:58 น.
ตำรวจไซเบอร์ จับกุมเครือข่ายเว็บพนัน เงินหมุนเวียนหลักสิบล้านบาทต่อเดือน
(19 มี.ค.68) สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.สอท.5 ได้ดำเนินการสืบสวนพบว่าเว็บไซต์ หนึ่ง เป็นเว็บไซต์พนันออนไลน์ มอมเมาประชาชน จากการสืบสวนพบว่าเว็บพนันดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนในระบบประมาณ 7 – 10 ล้านบาทต่อเดือน จึงได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.5 จนสามารถขอศาลอาญาออกหมายจับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำผิด และหมายค้นเพื่อปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายดังกล่าว มีการแบ่งหน้าที่เป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย
1. กลุ่มผู้ทำหน้าที่แอดมิน
2. กลุ่มผู้ทำหน้าที่เป็นบัญชีธนาคารในเครือข่าย (บัญชีม้า) ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าวทั้งหมด
3. กลุ่มผู้ถอนเงินหรือรับผลประโยชน์จากเว็บพนัน จำนวน 6 ราย
ต่อมาในวันที่ 18 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาในเครือข่ายดังกล่าว ในพื้นที่ จังหวัดปทุมธานี และ จังหวัดเพชรบูรณ์
ผลการปิดล้อมตรวจค้นจับกุม จุดสำคัญในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1769/2568 ลง 13 มี.ค.68 ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนถอนเงินหรืออาจส่วนรับผลประโยชน์จากเว็บพนันดังกล่าว พร้อมของกลาง อาทิเช่น โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม
จากสอบถามนายเอ ให้การปฏิเสธตลอดกล่าวหา โดยอ้างว่าตนเองทำหน้าที่จัดหาบัญชีธนาคารของบุคคลต่างด้าวให้เครือข่ายเว็บพนัน โดยจะได้ผลประโยชน์จากการจัดหาบัญชีม้าและถอนเงินในส่วนผลกำไรของตนเองจากบัญชีม้าที่ตนถืออยู่เช่นกัน และรวมถึงอ้างว่าไม่ได้มีส่วนเป็นผู้บริหารหรือดูแลด้านการเงินของเว็บพนันดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนไม่ปักใจเชื่อ และจะสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป
ส่วนอีกรายคือ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1764/2568 ลง 13 มี.ค.68 ซึ่งถูกจับกุมในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยทำหน้าที่เป็นบัญชีม้าหน้าเว็บพนันในเครือข่ายดังกล่าว ซึ่งในชั้นจับกุมนายบี ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การในสาระสำคัญว่าตนเองถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชีธนาคารในราคาบัญชีละ 3,000 บาท และมาทราบภายหลังถูกจับกุมว่าบัญชีธนาคารของตนเองถูกนำมาใช้เป็นบัญชีม้า
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาทั้งสองรายในความผิดฐาน “ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันในการเล่นทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน, สมคบโดยตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสบคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน”
ส่วนนายพีรณัฐฯ ซึ่งใช้บัญชีม้าในการถอนเงินได้ถูกแจ้งข้อกล่าวเพิ่มเติมในความผิดฐาน “ใช้บัตรเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนฯ” นำตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทั้งสองรายนำส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.สอท.5 ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ผู้ต้องหารายอื่นในเครือข่ายที่ถูกออกหมายจับแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.สอท.5 จะได้ดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวต่อไปและขยายผลผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป