24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 23 พฤศจิกายน 2567

>> อย. เผยผลตรวจกัมมีช่วยให้นอนหลับยี่ห้อดัง เจอยาอันตราย 'เมลาโทนิน' มีผลทำให้ง่วงซึม ปวดศีรษะ ผู้ป่วยบางกลุ่มต้องระวัง

08.23 น. จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ตรวจสอบสถานที่นำเข้าอาหารเพื่อจำหน่ายของ บริษัท ไวท์แลป เอสเซนเชียลส์ จำกัด เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2567 และได้เก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารส่งตรวจวิเคราะห์ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยฉลากระบุรายละเอียดผลิตภัณฑ์ “แคล แมก กัมมี่ (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร) ขนาดบรรจุ 180 กรัม 60 ชิ้น

ผลการตรวจวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ตรวจพบยาแผนปัจจุบัน เมลาโทนิน ซึ่งจัดเป็นยาอันตราย มีผลทำให้ง่วงซึม ปวดศีรษะ และมีข้อควรระวังในผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น ผู้ป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเอง ผู้ป่วยลมชัก ผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้มีปัญหาเรื่องโรคตับและไต และหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร จึงจัดเป็นอาหารที่มีสิ่งที่น่าจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพเจือปนอยู่ด้วย เข้าข่ายเป็นอาหารไม่บริสุทธิ์ ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 จึงประกาศเตือนให้ประชาชนระมัดระวังในการซื้อหรือบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารดังกล่าว ทั้งนี้ อย. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิด

>> สังเวยทริปน้ำไม่อาบ รถจยย.ชนกันเอง เสียชีวิต 1 คน

09.20 น. จากกรณีกลุ่มรถจักรยานยนต์ “ทริปน้ำไม่อาบ” กว่า 6,000 คัน ขับมุ่งหน้าเข้าจังหวัดเพชรบูรณ์ ตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อร่วมกิจกรรมท่องเที่ยวตามที่นัดหมายไว้ โดยมีจุดหมายปลายทางหลักคือ ภูทับเบิก และเขาค้อ

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และวางกำลังดูแลความเรียบร้อยตลอดเส้นทาง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและควบคุมความประพฤติของผู้ร่วมทริป โดยเน้นย้ำเรื่องการขับขี่ปลอดภัย การไม่ดื่มแอลกอฮอล์ และการเคารพกฎจราจรอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์คลิป ขณะที่กลุ่มรถจักรยานยนต์ ในทริปน้ำไม่อาบ กำลังขับมุ่งหน้าสู่จุดหมาย และได้เกิดอุบัติเหตุชนกันจนรถไถลไปกับถนน เบื้องต้นทราบว่าอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดบนถนน สระบุรี-หล่มสัก (ทางหลวงหมายเลข 21) พื้นที่ ม.1 ต.นิคมลำนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี ผู้เสียชีวิตเป็นชาย อายุประมาณ 20-25 ปี

>> สืบนครบาล ตามจับ 2 สาว เครือข่าย "หมอบุญ" ขบวนการฉ้อโกงเงิน ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับการแพทย์

11.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบนครบาล ได้ร่วมกันจับกุม น.ส.วิ (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน" และจับกุม น.ส.จิ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 ข้อหา "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน"

ซึ่งจับกุมตัวทั้ง 2 ราย ได้ที่ สำนักงานกฎหมายแห่งหนึ่ง ม.11 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมกันนี้ ได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ยี่ห้อ BENZ รุ่น EQS450+ สีดำ จำนวน 1 คัน ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ระหว่างนี้ชุดจับกุมกำลังนำตัวพร้อมของกลางไปที่ บช.น. เพื่อขยายผลต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบนครบาล กล่าวว่า คดีนี้ถือเป็นคดีที่มีความเสียหายหลายล้านบาท มีผู้เสียหายมาร่วมระดมทุนเป็นจำนวนมาก และผู้ต้องหายังมีการทำเป็นขบวนการ ทางผู้บังบัญชาจึงได้สั่งการให้เร่งรัดทำคดีอย่างรัดกุมและรวดเร็ว ขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการทุกคน เพื่อบรรเทาความทุกข์ร้อนให้ผู้เสียหาย สุดท้ายขอแจ้งเตือนว่า การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง โดยเฉพาะพวกที่มีโปรโมทให้ลงทุนระยะสั้น แต่ให้ผลตอบแทนสูงมาล่อใจ ฉะนั้น ควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รอบคอบ ปรึกษานักลงทุนผู้มีความเชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ

>> ปทส.ตัดวงจรค้าเสือโคร่งข้ามชาติ ยึดของกลางซากเสือโคร่ง 3 ตัว

12.00 น. กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันจับกุม นายลี (นามสมมุติ) อายุ 60 ปี โดยกล่าวหาว่ากระทำผิด พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ. 2562 ฐาน “มีไว้ในครอบครอง, ค้าหรือจำหน่าย ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตรวจยึดของกลาง ซากสัตว์ป่า (เสือโคร่ง) จำนวน 3 ตัว (สภาพสมบูรณ์) จับกุมได้ที่ บ้านหลังหนึ่ง ม.3 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาข่าวทราบว่ามีบุคคลได้พยายามนำซากสัตว์ป่าสงวน (เสือโคร่ง) สภาพสมบูรณ์ จำนวน 3 ตัว ออกมาเสนอขาย จึงได้ทำการขอหมายค้น โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. ได้นำกำลังลงพื้นที่ค้นบ้านหลังดังกล่าวและทำการยึดซากเสือ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป​

ทั้งนี้ ผู้ต้องหารับว่าซากเสือดังกล่าว เป็นเสือโคร่งสุมาตรา ได้มาจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งผู้ต้องหาได้รับมากว่า 40 ปี แล้ว ต่อมาตนเองเดือดร้อนเงินจึงตัดสินใจนำมาขาย โดยขายในราคา 900,000 บาท และมีการต่อรองกันจนเหลือราคา 200,000 บาท

>> “เจ๊หนิง-สามีตำรวจ-หลาน” ยังไม่มามอบตัวหลังโดนหมายจับ

12.50 น. จากกรณีที่น.ส.ธนัฎฐา หรือหนิง แจ้งความให้ดำเนินคดี นางศิรินัดดา หักพาล ภรรยาพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาลอดีต รองผบ.ตร. ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานและบุกรุกเคหสถาน ขณะเดียวกัน นางศิรินัดดา แจ้งความกลับคู่กรณีแจ้งความเท็จกลั่นแกล้งผู้อื่นให้รับโทษทางอาญา

ต่อมาศาลอาญากรุงเทพใต้ ออกหมายจับ น.ส.ธณัฏฐา หรือ เจ๊หนิง พ.ต.อ.ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ และนายพงษ์พัฒน์ วรเกต หลานเจ๊หนิง ข้อหา ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนเป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น โดยผู้สื่อข่าวโทรถามเจ๊หนิงเรื่องหมายจับได้รับคำตอบว่าเจ๊หนิงกับพวกจะเดินทางเข้ามอบตัว วันที่ 23 พ.ย.67 เวลา 09.00 น. แต่ถึงเวลานัดหมายกลับไม่พบวี่แววทั้ง 3 คนเข้ามอบตัว

>> ตำรวจชุดสืบสมุทรปราการ รวบเยาวชนวัย 15 ปี ทำระเบิดแจกเพื่อนๆ เตรียมถล่มอริ

13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ นำหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ภายในซอยอยู่สุข 13 ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ ภายหลังจากรับแจ้งว่าบ้านหลังดังกล่าว มีวัยรุ่นมากหน้าหลายตา เข้ามาจับกลุ่มมั่วสุม และส่งเสียงดังรบกวนที่อยู่บริเวณใกล้เคียง

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจพบนายเอ (นามสมมุติ) เยาวชนอายุ 17 ปี นอนพักอยู่ในบ้าน ก่อนที่จะแสดงหมายศาลและขออนุญาตเข้าไปตรวจค้น พบปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก ระเบิดแสวงเครื่อง 3 ลูก กระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 2 นัด สอบสวนนายเอ ให้การเบื้องต้นว่า ปืนดังกล่าวเป็นของตนเองจริง ส่วนระเบิดนั้น ตนเองไปขอมาจากนายบอย (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ก่อนนำมาไว้ในบ้าน เพื่อเตรียมไปก่อเหตุล้างแค้นกับกลุ่มวัยรุ่นที่เคยมีเรื่องกัน

ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงได้เดินทางไปที่ซอยมิตรไมตรี 27/14 ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ บ้านของนายบอย เยาวชน อายุ 15 ปี ตามข้อมูลที่ให้มา หลังไปถึงเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว โดยมีนางสาวแนน แม่ของนายบอย ออกมาต้อนรับ จากนั้นตำรวจจึงได้บอกรายละเอียดให้ฟังว่า สาเหตุที่มาค้นบ้าน เนื่องจากนายบอย ลูกชายมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำระเบิด ต่อมาหลังจากนางสาวแนน ได้ยินถึงกับเข่าอ่อนเป็นลมล้มพับลงไปกับพื้น เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปพยุงและปฐมพยาบาลในเบื้องต้น จนอาการดีขึ้น ก่อนเข้าค้นบ้านจนไปพบระเบิดแสวงเครื่อง 1 ลูก ซ่อนในลิ้นชักในบ้าน และกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 อีก 2 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบถามนายบอย รับสารภาพว่า ระเบิดเป็นของตนจริง ตนทำไว้เพื่อแจกเพื่อนๆ ส่วนความรู้การประกอบระเบิดได้มาจากรุ่นพี่ จึงนำตัวเยาวชนทั้งสองคน ให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ แจ้งข้อหา ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน และวัตถุระเบิด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> "ตำรวจทางหลวง" ไล่ล่า "รถกระบะตู้ทึบ" ลักลอบขนแรงงานเถื่อน

15.30 น. ตำรวจทางหลวง และตม.จังหวัดปัตตานี ติดตามไล่ล่ารถกระบะตู้ทึบมิตซูบิชิ ทะเบียน กรุงเทพฯ หลังจากที่ได้รับรายงานว่า เป็นรถที่ลักลอบขนแรงงานเถื่อนข้ามชาติชาวเมียนมา โดยบริเวณ ถนน ทล.42 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจจุดสกัดและเรียกตรวจรถยนต์กระบะคันนี้ ปรากฏว่าภายในตู้ทึบท้ายรถกระบะพบแรงงานเถื่อนชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองเต็มตู้ทึบจำนวน 29 คน เป็นชาย 21 คน หญิง 8 คน จึงควบคุมตัวลงจากรถ และจับกุม นายมูฮัมหมัดฟิตดาว บินไยนี อายุ 27 ปี โดยให้การว่าได้ขับรถไปขับชาวเมียนมากลุ่มนี้มาจากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ เพื่อไปส่งในพื้นที่ ต.ปูเก๊ะตา อ.แว้ง จ.นราธิวาส ได้ค่าจ้างหัวละ 1,500 บาท จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

>> ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว 6 ผู้ต้องหาคดี ร่วม หมอบุญ ฉ้อโกง 7.5 พันล้าน ส่วนเมีย-ลูกสาว คุมส่งขัง สน.พญาไท

16.20 น. ความคืบหน้า หลังศาลอาญาออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ อายุ 86 ปี และพวกรวม 9 ราย หลอกชักชวนลงทุนธุรกิจการแพทย์ 5 โครงการ โดยพบว่ามีผู้เสียหายจำนวน 247 ราย มูลค่าความเสียหาย 7,500 ล้านบาท โดยภรรยาและลูกของหมอบุญ ถูกออกหมายจับเช่นกัน ก่อนทั้งคู่ พร้อมทนายความ เข้ามอบตัวในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 6 ราย คือ 1.น.ส.จิดาภา อายุ 53 ปี 2.น.ส.ศิวิมล อายุ 38 ปี 3.นางอัจจิมา อายุ 49 ปี 4.นายภาคย์ อายุ 36 ปี 5.นางภัทรานิษฐ์ อายุ 55 ปี และ 6.นายธนภูมิ อายุ 36 ปี

ล่าสุด ภายหลัง พนักงานสอบสวน คุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนไปฝากขัง ที่ศาลอาญา พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยให้เหตุผลมูลค่าความเสียหายสูง, อัตราโทษสูง กระทำความผิดหลายกรรม เกรงจะหลบหนี ,การไปชักชวน ย่อมต้องตรวจสอบข้อมูลว่ามีจริงหรือไม่ ,มีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ที่ติดต่อจะมาแจ้งความ ,มีการทำเป็นขบวนการ และมีผลประโยชน์ร่วมกัน และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ต่อมาศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว

ส่วน นางจารุวรรณ อายุ 79 ปี และ น.ส.นลิน อายุ 51 ปี ภรรยาและบุตรสาวของนายแพทย์บุญ หลังจากสอบปากคำเสร็จได้นำไปคุมตัวที่ห้องขัง สน.พญาไท ก่อนส่งฝากขังศาลในวันที่ 25 พ.ย.นี้ โดยพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวเช่นกัน

>> วัยรุ่นถูกคู่อริต่างสถาบัน ไล่ยิงระทึกกลางถนน บาดเจ็บ 2 ราย

19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งวัยรุ่นถูกไล่ยิงบาดเจ็บ 2 ราย อยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ ต.ศีรษะจรเข้น้อย อ.บางเสาธง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมฝ่ายสืบสวน กู้ชีพรพ.บางเสาธง และ กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุ พบชาย อายุ 18 ปี ถูกยิงเข้าที่ต้นขาซ้าย อีกรายเป็นชายรุ่นเดียวกัน ถูกยิงเข้าเอวกระสุนฝังใน เจ้าหน้าที่เร่งเข้าช่วยเหลือ ก่อนพาส่งโรงพยาบาล สอบสวนทราบว่า ทั้งคู่เคยเรียนอาชีวะอยู่สถาบันแห่งหนึ่ง แต่ปัจจุบันไม่ได้เรียนแล้ว ก่อนเกิดเหตุกำลังไปหาเพื่อน ขณะกำลังกลับปรากฎว่าเจอคู่อริต่างสถาบันชักปืนไล่ยิงใส่ทันที 3 นัดซ้อน จนได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย