รวบ 2 ผัวเมียหลอกรับสมัครงานทางออนไลน์ ก่อนนำเอกสารผู้สมัครไปเปิดบัญชีหลอกลวงผู้อื่น

กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) โดย พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป. พร้อม​เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันจับกุม น.ส.พร (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ลงวันที่ 25 มีนาคม 2567  ในความผิดฐาน ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร, ความผิดเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์, พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์,พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน
และ นายมน (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ลงวันที่ 25 มีนาคม 2567 ในความผิดฐาน ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร, ความผิดเกี่ยวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์, พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์,พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน จับกุมได้ที่บริเวณหน้าห้องพักโรงแรมในพื้นที่ตำบลอุทัย อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

สืบเนื่องจาก น.ส.พร และ นายมน ได้มีการแฝงตัวไปในกลุ่มหางานทางเพจเฟซบุ๊ก โดยใช้บัญชีเฟซบุ๊กอวตาร ทักแชทเพื่อสนทนาส่วนตัวกับผู้เสียหายที่เข้ามาหางานในกลุ่มดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหาจะอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากฝ่ายบุคคลของบริษัทต่าง ๆ ขอนัดสัมภาษณ์งานกับผู้เสียหาย โดยบอกให้ผู้เสียหายเตรียมเอกสารสําหรับสมัครงาน ได้แก่ สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน , สําเนาทะเบียนบ้าน , ใบรับรองคุณวุฒิการศึกษา , สําเนาหนังสือรับรองคนพิการ และรูปถ่ายหน้าตรงของผู้เสียหาย จากนั้นผู้ต้องหาได้นัดพบกับผู้เสียหายบริเวณศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านนวนคร จังหวัดปทุมธานี เมื่อถึงเวลาตรวจเอกสาร ก็จะอ้างว่า ผู้เสียหายถ่ายสําเนาบัตรประจําตัวประชาชนมาไม่ถูกต้อง จะขออาสานําบัตรไปถ่ายสําเนาให้ใหม่ และจะใช้อุบายหลอกว่า รูปถ่ายของผู้เสียหายที่นํามาใช้ไม่ได้ จะต้องขอใช้โทรศัพท์มือถือของตัวเองถ่ายหน้าผู้เสียหายแทนเพื่อส่งให้กับบริษัทโดยตรง หรือในบางรายจะอ้างว่าต้องถ่ายรูปหน้าผู้เสียหายเพื่อใช้ทําข้อมูลการสแกนใบหน้าสําหรับเข้า-ออกบริษัท แต่ที่จริงแล้ว คือการหลอกลวงให้ผู้เสียหายสแกนใบหน้าเพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยจะใช้ข้อมูลจากบัตรประชาชนตัวจริงที่อ้างว่าขอไปถ่ายสําเนาก่อนหน้านี้นำมาใช้ในเปิดบัญชี ซึ่งเมื่อผู้ต้องหาได้ข้อมูลพร้อมรูปถ่ายครบแล้ว ก็จะออกอุบายว่าขอไปทําธุระ ก่อนจะหลบหนีไป โดยผู้ต้องหาจะทำการลบประวัติการสนทนาและยกเลิกข้อความที่คุยกับผู้เสียหาย และบล็อกบัญชีเฟซบุ๊กของผู้เสียหายอีกด้วย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งภายหลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว ผู้ต้องหาทั้งสองได้ประกันตัวออกมาเพื่อสู้คดี แต่กลับหนีการประกันตัวต่อศาลเป็นเหตุให้ศาลจังหวัดธัญบุรี จ.ปทุมธานี ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จนกระทั่งล่าสุด ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ป. จับกุมไว้ได้ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งศาลจังหวัดธัญบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า น.ส.พร มีหมายจับติดตัวอีก 5 หมายจับ  และนายมล มีหมายจับติดตัวอีก 2 ซึ่งเป็นความผิดในลักษณะเดียวกันกับที่ถูกจับกุมในครั้งนี้