ส.อ. ร้องสื่อหลังถูกรุ่นพี่รุมทำร้าย แต่คดีไม่คืบ เผยจุดไฟผ่านกระป๋องสเปรย์ลนร่างกาย ขณะตำรวจยันดำเนินการจับ แล้ว 4 อีก 15 รับทราบข้อหาแล้ว รอเรียกตัวส่งอัยการ

เมื่อวันที่ 6 ก.พ.67 เมื่อเวลา 18.00 น. ส.อ.พิษณุ เหมมั่น ได้ร้องขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าว หลังจากเมื่อวันที่ 7 กรกฏาคม 66 ที่ผ่านมา ส.อ.พิษณุ เหมมั่น ได้ถูกรุ่นพี่ 19 คนในมหาวิทยาลัยชื่อดังของจังหวัดนนทบุรี รุมทำร้ายร่างกายอย่างโหดร้าย หลังรุ่นพี่ไม่พอใจ ส.อ.พิษณุ ไม่แสดงเคารพรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัย และยังมาขอลาออกจากกลุ่มอีก เพราะถือว่าตัวเองเป็นทหาร ทำให้กลุ่มรุ่นพี่ทั้ง 19 คน พากันตัว ส.อ.พิษณุ ไปยังเซฟเฮาท์แห่งหนึ่งแล้วบังคับให้ถอดเสื้อผ้าก่อนช่วยกันทำร้าย ส.อ.พิษณุด้วยการโดยใช้ไฟแช๊คลนตามร่างกาย รวมทั้งที่อวัยวะเพศ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังจากรุ่นพี่รุมบังคับทำร้ายร่างกายจนหน่ำใจแล้วจึงปล่อยตัว ส.อ.พิษณุให้กลับบ้านพักไป หลังจากนั้นต่อมาในวันที่ 11 ก.ค 66 ส.อ.พิษณุ จึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีกับรุ่นพี่ทั้ง 19 คน แต่หลังจากแจ้งความจนเวลาผ่านมากว่า 6 เดือนแล้วคดียังไม่คืบหน้า ทำให้ทาง ส.อ.พิษณุ เกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากกลุ่มรุ่นพี่ของมหาวิทยาลัย จึงนำเรื่องมาปรึกษาและร้องกับผู้สื่อข่าวให้ช่วยติดตามความคืบหน้าให้

โดย ส.อ.พิษณุ เปิดเผยว่า ก่อนที่ตนจะถูกรุมทำร้ายร่างกายนั้น ตนได้ไปบอกกับรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยกลุ่มนี้ว่าจะขอออกจากกลุ่ม เนื่องจากไม่มีเวลาเรียนเพราะต้องคอยติดตามไปรับน้องเกือบตลอดเวลา ต่อมาในวันเกิดเหตุมีรุ่นพี่คนหนึ่งเข้ามาถามตนว่า มึงจะออกจากกลุ่มเหรอ มึงมานี่สิ มึงจะออกใช่ไหม จากนั้นรุ่นพี่คนนี้ก็พาตนไปที่ด้านหลังอาคารเรียนแล้วตบหน้าตนก่อน 1 ครั้ง จนกระทั่งมีเพื่อนของรุ่นพี่ที่ตามมาสมทบบอกว่าตรงนี้มีกล่องวงจรปิด ก่อนที่กลุ่มรุ่นพี่ทั้งหมด 19 คนจะพาตนไปที่ริมแม่น้ำ แล้งบังคับให้ตนถอดเสื้อผ้าออกจนหมด จากนั้นกบุ่มรุ่นพี่จึงใช้สีสเปรย์ฉีดพ่นผ่านไฟแช๊คใส่ตนไปตามลำตัวพร้อมกับรุมกระทืบตนด้วย โดยกลุ่มรุ่นพี่กล่าวหาว่าตนจะนำเอาเรื่องไปในกลุ่มไปบอกคนข้างนอก จากนั้นจนกระทั่งเวลาประมาณ 4 ทุ่ม กลุ่มรุ่นพี่จึงพาตนไปขึ้นรถแล้วบอกว่าจะพาไปที่เซฟเฮาท์อีกแห่ง เมื่อไปถึงตนก็ถูกสั่งให้หวิดพื้นแล้วก็ให้ถอดเสื้อผ้าออกอีกครั้ง จากนั้นก็ใช้สเปรย์พ่นผ่านไฟแช๊คใส่ตามร่างกายตน แล้วก็รุมกระทืบอยู่แบบนั้น พร้อมกับถามว่าตนว่า มึงจะออกจากกลุ่มใช่ไหม สถานการณ์ในตอนนั้นตนกลัวมากจึงบอกไปว่าไม่ออกแล้ว รุ่นพี่คนนี้จึงบอกกับตนว่า ขนาดรุ่นพี่มึงที่เป็นตำรวจเขายังไม่กล้าออกเลย หลังจากตนถูกรุมทำร้ายจนหนำใจแล้ว กลุ่มรุ่นพี่จึงให้ตนอาบน้ำแล้วพาไปส่งบ้าน พร้อมกับพูดข่มขู่ว่าถ้าตนเอาเรื่องไปบอกใครตนจะเจอแบบนี้อีกแน่  ส่วนสาเหตุที่ตนเข้าไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นเพราะต้องการจะความรู้เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปในอนาคต แต่ไม่คิดว่าจะมีรุ่นพี่มีการตั้งกลุ่มรับน้องที่โหดร้ายแบบนี้

ส.อ.พิษณุ เปิดเผยอีกว่า ด้วยความสงสัยตามที่รุ่นพี่กล่าวอ้างว่ามีรุ่นพี่อีกคนในกลุ่มที่เป็นตำรวจยังไม่กล้าออกจากกลุ่มเลย ตนจึงนำชื่อรุ่นนี้คนนี้ไปเช็กดูก็พบว่าเป็นตำรวจสังกัดกองบินตำรวจจริง ยิ่งทำให้ตนหวั่นเกรงจะถูกรุ่นพี่กลุ่มนี้ตามมาทำร้ายต่อหลังจากที่ตนตัดสินเข้าเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับรุ่นพี่ทั้ง 19 คน

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวกับทาง พ.ต.ท.บำเพ็ญ ไวยรจนา หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี โดย พ.ต.ท.บำเพ็ญ ชี้แจงว่า คดีที่รุ่นน้องซึ่งเป็นทหารถูกรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัย รวม 19 คน รุมทำร้ายหลังอย่างป่าเถื่อนนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานและทำการออกหมายจับกลุ่มรุ่นพี่ทั้งหมดแล้ว โดยมีรุ่นพี่ที่ร่วมกันก่อเหตุ 4 ใน 19 คน ถูกนำตัวส่งฟ้องดำเนินคดีจนถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ไปแล้ว ส่วนรุ่นพี่ที่ผู้ร่วมก่อเหตุอีก 15 คนได้เดินทางเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาแล้วทุกคน ซึ่งหลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนจะนัดหมายกลุ่มผู้ก่อเหตุที่เหลืออีกนำตัวส่งส่งฟ้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งถ้าหากกลุ่มรุ่นพี่ที่ร่วมกันก่อเหตุจำนวนที่เหลือไม่มาตามนัดของทางพนักงานสอบสวนก็จะพิจารณาออกหมายจับต่อไปในทันที