หน้าแรก > การเมือง

รมช.มหาดไทย เผยคาดใช้เวลา 2-3 เดือน ก่อนเริ่มปฏิบัติการเข้มข้นตัดตอนถอนรากถอนโคนผู้มีอิทธิพล

วันที่ 7 ตุลาคม 2566 เวลา 12:19 น.


รมช.มหาดไทย เผยคาดใช้เวลา 2-3 เดือน ก่อนเริ่มปฏิบัติการเข้มข้นตัดตอนถอนรากถอนโคนผู้มีอิทธิพล แจงสะสมปืน เพราะลวดลายสวยงาม

วันนี้ (7 ต.ค. 66) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง ความคืบหน้าในการปราบปรามผู้มีอิทธิพลที่มีรายชื่อ 600-700 รายชื่อ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานความมั่นคง และได้ข้อสรุปว่า องค์การปกครองได้มีการเปิดเผยรายชื่อมานั้น เราได้มีการนำข้อมูลมาทำใหม่ โดยไม่ได้พิจารณาเพียงตัวบุคคล แต่รวมถึงพฤติกรรมด้วย

นายชาดา กล่าวว่า แม้ในอดีตจะเคยมีการเปิดเผยรายชื่อไปแล้ว และมีการผ่านการดำเนินการมาแล้วมากกว่า 2-3 ครั้งแต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ตนเองจึงให้นำข้อมูลที่เห็นว่าบุคคลนั้นมีความผิดอย่างไร ขณะนี้อยู่ในการรวบรวมรายชื่อใหม่ จากที่ประชาชนได้มีการร้องเรียนมา จากทางหมายเลขโทรศัพท์ที่ตนเคยให้ไปก่อนหน้านี้ พร้อมย้ำว่า ขอให้เป็นการแจ้งข้อมูลที่ชัดเจน และถูกต้อง โดยไม่มีการกลั่นแกล้งกัน ส่วนความร่วมมือกับหน่วยความมั่นคงก็จะมีการส่งรายชื่อ จากนั้นกระทรวงมหาดไทยจะนำรายชื่อจากประชาชน และ สส. ที่มีการส่งรายชื่อเข้ามา จะนำข้อมูลมากลั่นกรองอีกครั้ง

นายชาดา อธิบายถึงการจำแนกกลุ่มผู้มีอิทธิพล สีเหลือง และสีแดงว่า สีแดงคือบุคคลที่กระทำความผิดอยู่ ณ ปัจจุบัน ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ที่มีความเกี่ยวข้อง ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการ อาจจะเป็นกลุ่มที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังจับกุมไม่ได้หรือแม้แต่หลักฐานที่ไม่เพียงพอ แต่การดำเนินการครั้งนี้เราจะดำเนินการทั้งระบบ โดยมีหน่วยงานความมั่นคงเข้าไปตรวจสอบภาษี หรือกรณีที่มีการฮั้วประมูล จะมีการดำเนินการอย่างเต็มระบบอย่างเข้มข้น โดยเราจะเข้าไปตรวจสอบดำเนินการ หรือเรียกว่าตัดตอนถอนรากถอนโคน ใครที่คิดไม่ดี ไม่ถูกต้อง รังแกประชาชนอยู่ ตนก็ขอให้เลิก ไม่เช่นนั้นต้องพบกับการตรวจสอบทั้งระบบ อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

ส่วนกรอบระยะเวลาในการดำเนินการนั้น นายชาดา เผยว่า ระยะเวลาในการรวบรวมข้อมูลใช้เวลานานพอสมควร ขณะนี้รอข้อมูลจากส่วนต่างๆ หรือหน่วยงานต่างๆ ส่งข้อมูลเข้ามาคาดว่าใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน และจะมีการปฏิบัติการอย่างเข้มข้นไปเรื่อยๆ

ส่วนกรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชี ทรัพย์สินส่วนตัวกรณีที่มีอาวุธปืนในครอบครอง 23 กระบอก นายชาดา ระบุว่า จะมีกฎหมายขององค์การปกครองโดยกระทรวงมหาดไทยออกมาตราการ หากใครครอบครองอาวุธปืนมาก ก็อาจจะเสียภาษีที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนคนที่ครอบครองปืน แต่ไม่ได้ใช้ไปทำร้ายใคร ตนเองมองว่าอาจจะเป็นการสะสม แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด

นายชาดา กล่าวต่ออีกว่าในส่วนอาวุธปืนของตนเองนั้นหากมีการเรียกร้องให้คืน ตนเองก็พร้อมคืน สำหรับการครอบครองปืนของตนนั้น เป็นการสะสมเนื่องจากอาวุธปืนของตนเองมีลวดลายที่สวยงาม ส่วนการครอบครองพระเครื่อง ในฐานะที่ตนเองเป็นอิสลามนั้น ตนเองอยู่ในจังหวัดอุทัยธานี มีมุสลิมจำนวนไม่มาก จึงมีความผูกพันกับทั้งวัด และพระ รวมถึงเซียนพระในตลาด และมีความชอบในพระเครื่อง มีมาตั้งแต่สมัยที่ตนเองเป็นนายกเทศมนตรี พระเครื่องที่ตนมีอยู่ในครอบครองไม่ได้มีไว้สำหรับเพื่อเช่า ซึ่ง ป.ป.ช.ได้มีการตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจจะขัดกับศาสนาอิสลามซึ่งตนเองมองว่าเป็นคนละเรื่องกัน

ทั้งนี้ นายชาดายังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า "เราไม่ได้กราบไหว้บูชา มองว่าเป็นของมงคล การกราบไหว้ทางศาสนาเป็นคนละประเด็นกัน เพราะศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี"
 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม