24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 11 เมษายน 2568

>> ทะเลาะกันเรื่องที่จอดรถ หน้า รพ.สต. ลุงวัย 66 ใช้ไม้ฟาด โดนคู่กรณีแทงสวนดับสลด
 
08.10 น. ได้รับแจ้งจากศูนย์ฯ 191 พิษณุโลก มีเหตุทะเลาะวิวาทหน้า รพ.สต.ปลักแรด ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก จึงแจ้งสายตรวจปลักแรดตรวจสอบ

จากการตรวจสอบ พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายชาญ อายุ 66 ปี และพบกับผู้ก่อเหตุ คือ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 49 ปี ทราบว่าได้ทะเลาะมีปากเสียงกันเรื่องที่จอดรถบริเวณหน้า รพ.สต.ปลักแรด

โดยในที่เกิดเหตุมีภาพคลิปกล้องวงจรปิดจับภาพนายชาญ ผู้เสียชีวิต ได้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงมาจอดที่เกิดเหตุก่อน จากนั้นรถยนต์ของนายเอ ขับเข้ามาจอดทีหลังและจอดชิดติดกับรถจักรยานยนต์พ่วงของนายชาญจนมีปากเสียงกัน

นายชาญ ใช้ไม้ฟาดไปที่หัวนายเอ จนแตก จากนั้นนายเอ ได้ใช้มีดที่ตนเองพกมาแทงไปที่ลำตัวของนายชาญ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบางระกำและได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

โดยพยานผู้เห็นเหตุการณ์ได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ปลักแรด และแจ้งศูนย์ฯ 191 พิษณุโลก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางระกำ สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในที่เกิดเหตุโดยทันทีและนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

>> นายกฯ สั่งการเร่งสร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวไทย พร้อมหาตลาดใหม่ ตั้งเป้ารายได้ 2 ล้านล้านบาท

09.47 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวไทย โดยระบุว่า รัฐบาลประกาศให้ปี 2568 เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 เพื่อยกระดับและกระตุ้นการท่องเที่ยวไทย ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติรับรู้ว่าประเทศไทยเที่ยวได้ทุกเดือน

ที่ประชุมได้รับทราบสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย พร้อมพิจารณา New KPI and New Value Based Strategy และแนวทางการจัดทำกลยุทธ์และแผนการตลาดรองรับการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยวให้เทียบเท่าปี 2562 ที่สร้างรายได้จำนวนเกือบ 2 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ นายกฯ สั่งการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผลักดันการท่องเที่ยวแบบมีวัตถุประสงค์ โดยเน้นแรงจูงใจ ผลิตภัณฑ์ และซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย โดยเฉพาะการต่อยอดด้านบริการและอาหาร พร้อมขอให้ทุกภาคส่วนหารือกับภาคเอกชน เพื่อหามาตรการสนับสนุน ส่งเสริมให้ภาคเอกชนสามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

>> “บขส.” เผยยอดประชาชนเดินทางกลับบ้านสงกรานต์วานนี้ (10 เม.ย.68) ไป – กลับ กว่า 123,297 คน

11.16 น. นายชัชวาล พรอมรธรรม กรรมการฯ รักษาการแทนกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า วันนี้ (11 เมษายน 2568) บขส. คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนา ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 หนาแน่น เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนหยุดยาวในช่วงเทศกาลฯ โดยคาดว่าจะมีผู้โดยสารเดินทาง ออกจากกรุงเทพฯ เที่ยวไป จำนวน 130,000 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เที่ยวไป จำนวน 5,000 เที่ยว และได้จัดรถโดยสารไม่ประจำทาง (รถเสริม 30) ประมาณ 1,000 คัน เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว

สำหรับข้อมูลการเดินรถเมื่อวานนี้ (10 เมษายน 2568) มีผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ เที่ยวไป จำนวน 77,759 คน เที่ยวกลับ จำนวน 45,538 คน รวมทั้งสิ้น 123,297 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) เที่ยวไป จำนวน 3,537 เที่ยว เที่ยวกลับ จำนวน 3,091 เที่ยว รวมทั้งสิ้น 6,628 เที่ยว ซึ่ง บขส. สามารถบริหารจัดการเดินรถได้อย่างเพียงพอ ไม่มีผู้โดยสารตกค้าง รถโดยสารเที่ยวสุดท้ายออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 เวลาประมาณ 23.00 น. และเที่ยวสุดท้ายออกจากสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ในเวลา 21.50 น.

นายชัชวาล กล่าวต่อว่า ผู้โดยสารที่จองตั๋ว บขส. ล่วงหน้า เที่ยวปกติและเที่ยววิ่งเสริม เส้นทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก ตั้งแต่เที่ยวเวลา 18.00 น. เป็นต้นไป ของการเดินทางในวันที่ 11 – 12 เมษายน 2568 ให้ไปขึ้นรถโดยสารที่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ประตู 2 ทั้งนี้ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลามาขึ้นรถก่อนเวลารถออก และให้ตรวจสอบข้อมูลบนตั๋วโดยสาร โดยเฉพาะจุดขึ้นรถและหมายเลขชานชาลาขึ้นรถ เป็นต้น

>> ไฟไหม้เรือโดยสาร กลางทะเลเกาะกูด ครอบครัวนักท่องเที่ยวปลอดภัย นายท้ายเรือเจ็บ 1 ราย

11.40 น. เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้เรือโดยสารชื่อ “อ.ทรัพย์ปิติ” ในพื้นที่จังหวัดตราด เบื้องต้นมีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 1 ราย ซึ่งได้รับการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจากทีมมูลนิธิสว่างบุญช่วยเหลือ และนำส่งไปยังโรงพยาบาลเกาะกูด อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด เพื่อเข้ารับการรักษา โดยขณะนี้ยังไม่มีรายงานยืนยันถึงอาการของผู้บาดเจ็บ

โดยมีรายงานเบื้ยงต้นว่า เรือโดยสารลำดังกล่าวได้รับการว่าจ้างจากนักท่องเที่ยวจากโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่เป็นครอบครัวพ่อแม่ ลูก 2 คน รวม 4 คน เพื่อเดินทางไปดำน้ำดูประการังที่เกาะแรด และระหว่างเดินทางกลับจากการดูประการังเครื่องยนต์เกิดระเบิดขึ้น และเกิดลุกไหม้ ลูกเรือจึงให้นักท่องเที่ยวลงจากเรือเพื่อขึ้นฝั่งปลอดภัย แต่ตัวเองและเพื่อนได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้ตามร่างกาย

จากการช่วยดับเพลิง แต่ดับไม่ได้ จึงกระโดดลงทะเลว่ายน้ำเข้าฝั่ง ขณะเรือโดยสารถูกไฟไหม้และจมลงทะเลไป ระหว่างนั้นมีเรือจากชาวบ้านผ่านเข้ามา และเมื่อถึงฝั่งบ้านคลองมาด มูลนิธิกู้ภัยสว่างบุญช่วยเหลือได้นำส่งโรงพยาบาลเกาะกูด และทั้ง 4 คนปลอดภัย ส่วนลูกเรือปลอดภัย แต่อยู่ระหว่างปฐมพยาบาลหลังจากถูกไฟไหม้ตามร่างกายหลายแห่ง 
หลังจากเกิดเหตุ นายไพรัช สร้อยแสง นายอำเภอเกาะกูด ได้รับแจ้งจึงเดินทางไปยังบ้านคลองมาด และเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและนักท่องเที่ยวทั้ง 4 คน และมีลูกเรือ 2 คน รวม 6 คน ซึ่งนายไพรัชเปิดเผยว่า เหตุที่เกิดขึ้นนั้นเนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เป็นครอบครัว รวม 4 คน ลูก 2 คน ที่เข้ามาพักที่โรงแรมเกาะกูดคาบาน่า เช่าเรือสปีดโบ๊ต เรือโดยสารขนาดเล็กและออกจากท่าเรือบ้านคลองมาด

>> จับเครือข่ายผู้ขายอะไหล่รถยนต์ปลอมออนไลน์ เสี่ยงเครื่องยนต์เสียหาย อันตรายถึงชีวิต

12.58 น. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันตรวจจับกุมผู้ต้องหา ชาย อายุ 50 ปี แจ้งข้อกล่าวหาว่า “มีไว้เพื่อจำหน่าย ซึ่งสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ของบุคคลอื่นที่ได้จดทะเบียน แล้วในราชอาณาจักร และเอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์ หรือข้อความใดๆ ในการ ประกอบการค้าของผู้อื่นมาใช้หรือ ทำให้ปรากฏ ชื่อสินค้าเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้า ของผู้อื่น” พร้อมด้วยของกลาง ไส้กรองอากาศ, ไส้กรองน้ำมันหล่อลื่น, ตัวกรองเชื้อเพลิงของรถยนต์ที่ปลอม ,ลูกหมาก, มอเตอร์พัดลม, หูยึดแหนบ (สาแหลก) โดยตรวจยึดได้ ภายในอาคารเก็บสินค้า อ.บางกรวย จ.นนทบุรี และ อาคารเก็บสินค้า ภายในซอยเจริญนคร 14 เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร

หลังตำรวจสืบสวนพบว่ามีการลักลอบจำหน่ายสินค้าปลอม เครื่องหมายการค้าที่เป็นอะไหล่รถยนต์ปลอม จำนวน 2 จุด ซึ่งสินค้าปลอมดังกล่าวอาจส่งผลเสียอย่างรุนแรงต่อทั้งเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพและอาจเกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของผู้ใช้

ผลการตรวจค้นพบของกลางจำนวนมากซึ่งเป็นสินค้า ซึ่งเป็นสินค้าที่ผิดกฎหมาย โดยผู้รับมอบอำนาจจากผู้เสียหายชี้ยืนยันว่าของกลางที่ตรวจยึดดังกล่าว เป็นสินค้าที่ปลอมเครื่องหมายการค้าและเอาชื่อ รูป รอยประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าของบริษัทฯ มาใช้จริง 
ทั้งนี้จาการสอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

>> เพลิงไหม้โกดังเก็บสินค้า ย่านซอยกรุงเทพกรีฑา 15 หวิดวอดทั้งหลัง

13.49 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้ สถานที่เกิดเหตุ ซอยกรุงเทพกรีฑา 15 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงสะพานสูง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นโกดังชั้นเดียวโครงสร้างเหล็กหลังคาเมทัลชีท ประกอบกิจการใช้เก็บสินค้า ต้นเพลิงเกิดภายในโกดัง เพลิงลุกไหม้ปลั๊กไฟต่อพ่วง ลุกลามหลอดไฟแอลอีดี สายไฟ และ กล่องเก็บอาหารพื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 20 ตารางวา รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ

ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟต่อพ่วง ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย เป็นเพศชาย อายุประมาณ 26 ปี มีอาการถูกของมีคมบาด อาสาสมัครปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุและนำส่งโรงพยาบาลวิภาราม พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยหัวหมาก

>> ตร.แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรม ก่อนเทศกาลสงกรานต์ 2568

14.00 น. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เป็นประธานแถลงผลปฏิบัติการระดมกวาดล้างอาชญากรรม เป้าหมายผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน และสืบสวนจับกุมบุคคลตามหมายจับ ในห้วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2568

ได้แก่ การกระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด การติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ และความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมของกลาง

ฝ่ายสืบสวนสอบสวน มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็นผู้ควบคุมสั่งการ การระดมกวาดล้างอาชญากรรม ในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้แผนยุทธการ “พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี” โดยระดมกวาดล้างอาชญากรรมระหว่างวันที่ 21 - 30 มีนาคม 2568 (รวม 10 วัน) สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิด พร้อมของกลาง จำนวน 4,950 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 4,339 คน

>> นายกฯ เป็นประธาน พิธีปล่อยแถวป้องกันปราบปรามอาชญากรรมฯ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ช่วงเทศกาลสงกรานต์

15.40 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีปล่อยแถวป้องกันปราบปรามอาชญากรรม รักษาความสงบเรียบร้อยการบังคับใช้กฎหมาย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 ณ บริเวณท้องสนามหลวง

นายกฯ เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนอย่างเต็มกำลัง และขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เสียสละเวลาตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ พร้อมเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับเรื่องอาชญากรรมสิ่งผิดกฎหมาย

พิธีปล่อยแถวฯ เป็นการตรวจสอบความพร้อมอุปกรณ์กำลังพลยานพาหนะ วัสดุอุปกรณ์ และอัตรากำลังของหน่วยร่วมปฏิบัติ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

>> บุกจับ นักพนันใช้ยาบ้าเป็นเดิมพันแทนเงิน เจ้าของห้องสารภาพซื้อมาขายพร้อมเสพขณะเล่น

18.00 น. นายสุรชัย โคตรบุตรดี นายอำเภอบางใหญ่ ได้สั่งการให้ นายอภิชาติ สุขรัตน์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายภูมิพนัติ วงศ์วิริยะกุล ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และสมาชิก อส. สังกัด ร้อย.อส.อ.บางใหญ่ ที่6 นำกำลังเข้าตรวจสอบหลังได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาบ้าและเล่นการพนันในพื้นที่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นห้องเช่า 3 ชั้น โดยสายลับแจ้งว่ามีการมั่วสุมกันที่ชั้น2 ห้องเบอร์10 เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังบุกเข้าตรวจค้น ภายในห้องพบผู้ชายทั้งหมด 4 คน กำลังนั่งเล่นไพ่รัมมี่อยู่ที่ระเบียงหน้าห้องน้ำจำนวน 3 คน ซึ่งแต่ละคนที่นั่งเล่นไพ่มียาบ้าวางอยู่ที่หน้าตักคนละ 1 เม็ด หากใครเเพ้ ต้องจ่ายเป็นยาบ้า พร้อมเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ส่วนอีก 1 คนนั่งอยู่ที่กลางห้อง คือนายดำ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี เจ้าของห้องนั่งอยู่กลางห้อง พบธนบัตรใบละ 1,000 บาท ซึ่งเป็นเงินล่อซื้อยาบ้าของทาฃอำเภอวางอยู่ที่หน้าตัก นอกจากนี้ยังพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงซิปสีน้ำเงินอีกจำนวน 360 เม็ด

จึงได้ทำการตรวจปัสสาวะปรากฏว่าพบสารเสพติดทั้ง 4 คน จากนั้นได้ควบคุมตัว พร้อมของกลางทั้งหมดมาสอบสวนที่ว่าการอำเภอบางใหญ่

>> รถจักรยานยนต์เสียหลักหลุดโค้งชนเสาไฟจราจร เสียชีวิตที่เกาะกลาง ถนนพหลโยธิน

19.20 น. รับแจ้งจาก อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูลพบุรี จุดวงเวียนศรีสุริโยทัย มีอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ลักษณะหลุดโค้งแล้วชนเสาไฟ บนถนนพหลโยธิน ช่วงทางโค้งใกล้เคียงโรงเรียนโคกกระเทียมวิทยาลัย ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ลพบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สีฟ้า ลพบุรี ล้มคว่ำสภาพหน้ารถพังเสียหาย ห่างออกไปที่เกาะกลาง พบเสาไฟสัญญาณจราจรมีร่องรอยการชนเสียหาย และใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต เป็นผู้ชาย 1 ราย ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี

>> คนร้ายนับสิบ รุมทำร้ายและแทงดับ หนุ่มนักศึกษา ปี 4 คณะวิศวะ ก่อนจะแยกย้ายหลบหนี

20.30 น. สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุวัยรุ่นแทงกันได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณสะพานลอยสะพานฟ้า คลองหนึ่ง ซอยรังสิต-นครนายก 6 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี

ที่เกิดเหตุพบรถจยย.เวสป้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดอยู่บริเวณใต้สะพานลอย ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลประชาธิปัตย์ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เป็นชายไทย อายุ 26 ปี นักศึกษา ปี 4 มหาวิทยาลัยราชมงคลแห่งหนึ่ง ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่ชายโครงขวา ข้อมือขวา หน้าอกขวา หน้าท้อง และแขนซ้าย

จากการสอบถาม นายปฏิภาณ เมฆกำพล เจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลนครรังสิต กล่าวว่า ขณะที่ตนปฎิบัติหน้าที่อยู่บริเวณสะพานฟ้าถนนเลียบคลองหนึ่ง มีวินจยย. วิ่งมาบอกว่ามีคนเจ็บนอนอยู่ริมฟุตปาธสะพานฟ้า ตนจึงได้ประสานกู้ชีพเพื่อรับตัวส่ง รพ.ประชาธิปัตย์ ต่อมาทราบว่าเสียชีวิต ซึ่งพลเมืองดีเล่าว่า เห็นวัยรุ่นนับ 10 คนกำลังรุมทำร้ายผู้ตายก่อนหลบหนีไป ส่วนสาเหตุก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเหตุอะไร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ลงพื้นที่หาข่าว รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อหาเบาะแสของคนร้าย ก่อนติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

05.27 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งเหตุ แผ่นดินไหว ขนาด 2.5  ลึก 10 กม. ภายในพื้นที่ประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 144 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย