วันที่ 3 มิถุนายน 2566 เวลา 23:34 น.
สกัดจับซากเนื้อโค - กระบือเถื่อน ล็อตใหญ่ลอบนำเข้าจากอินเดีย เกือบ 30,000 กิโลกรัม
(3 มิ.ย.2566) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รรท. ผบก.ทล. พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. นำกำลังตำรวจส.ทล.1 กก.4 บก.ทล. และตำรวจ บก.ปคม. สนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรมุกดาหาร และ เจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์มหาสารคาม จับกุม นายฐติ หรือเอก (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้ต้องหา จับกุมได้บริเวณหลักกิโลเมตรที่ ทล.23 กม.50 -51 ต.บรบือ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม
สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ ตำรวจสอบสวนกลาง ได้สืบสวนจับกุมขบวนการ ลักลอบนำเข้าซากสัตว์เถื่อนเข้ามาประเทศโดยผิดกฎหมายในพื้นที่เขตรับผิดชอบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับแจ้งเบาะเเสว่า จะมีการลำเลียงขนซากสัตว์ล็อตใหญ่จากนอกราชอาณาจักรเข้ามาทางพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือส่งเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานคร(กทม.) โดยอาศัยในช่วงวันหยุดยาวระหว่างวันที่ 2-5 มิ.ย. 2566
โดยจากข้อมูลตำหนิรูปพรรณรถยนต์ และกลุ่มผู้ต้องสงสัย ทำให้ทราบว่า ขบวนการดังกล่าว จะใช้รถบรรทุกกึ่งพ่วงลำเลียงขนส่งซากสัตว์ เมื่อทราบข้อมูลเบาะเเสดังกล่าว จึงได้เฝ้าระวังรถยนต์ และกลุ่มผู้ต้องสงสัยดังกล่าว กระทั่งเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2566 เวลาประมาณ 11 .00 น. ตำรวจได้พบรถยนต์ ต้องสงสัยตามที่ได้รับเเจ้งบนถนนหมายเลข 213 มุ่งหน้าบรบือ จ.มหาสารคาม จึงได้การวางกำลังทำการสกัดจับ เมื่อรถขับผ่านจุดสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เรียกให้หยุดรถ และขอทำการตรวจสอบรถ
จากการตรวจสอบพบ ซากสัตว์จำนวนมากบรรทุกอยู่ภายในตู้เต็มตู้พ่วงคอนเทนเนอร์ ซึ่งนายเอก ให้การว่า ตนขับรถจะนำสินค้าดังกล่าวไปส่งยังบริเวณพื้นที่จังหวัดนนทบุรี จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ด่านกักกันสัตว์มหาสารคามเข้าร่วมตรวจสอบ ผลการตรวจสอบซากสัตว์เบื้องต้นพบว่า เป็นเนื้อกระบือถอดกระดูกแช่แช็ง น้ำหนักประมาณ 29,000 กิโลกรัม โดยมีแหล่งผลิตที่มาจากประเทศอินเดีย
จากการสอบสวน นายเอก ให้การเพิ่มเติมว่า ตนเป็นลูกน้องของบริษัทขนส่งเจ้าของรถคันนี้ ซึ่งบริษัทเจ้าของรถอยู่ที่แหลมฉบัง ได้ค่าจ้างครั้งละ 3,500 บาท ค่าจ้างให้หลังจากเสร็จงาน และเงินมีเดือนต่างหาก โดยการมารับสินค้าในครั้งนี้ ตนขับรถเปล่าไม่มีสินค้าบรรทุก โดยขับมาจากแหลมฉบังแล้วมาจอดทิ้งพ่วงไว้บริเวณ ใกล้ด่านมุกดาหาร เมื่อวันที่ 30 พ.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. แล้วไปหาที่พักรอรับพ่วงพร้อมสินค้าในวันที่ 2 มิ.ย.2566
โดยเมื่อถึงเวลารับสินค้าจะได้รับแจ้งจากผู้ขายให้ไปรับพ่วงพร้อมสินค้า โดยจะมาจอดทิ้งพ่วง พร้อมสินค้าไว้ให้บริเวณจุดนัดรับ ซึ่งจุดรับสินค้าในครั้งนี้ ตนมารับครั้งแรกผู้ขายให้ไปรับพ่วงบริเวณแยกไฟแดงใกล้ๆ กับด่านมุกดาหาร
ทั้งนี้ตำรวจ ยืนยันจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด กับผู้ลักลอบกระทำผิด เนื่องจากโรคต่างถิ่นที่อาจกระทบต่อการเลี้ยงสัตว์ของไทย ซึ่งอาจเป็นปัญหาต่อประชาชนในประเทศ รวมทั้งหวั่นเกรงต่อสารเร่งเนื้อแดงที่อาจปนเปื้อนมากับเนื้อสัตว์ต่างแดนที่ลักลอบนำเข้ามาที่จะส่งผลอย่างยิ่งต่อสุขภาพคนไทย
เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ใช้เอกสารราชการปลอม ,ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของที่ตนรู้ว่า เป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 นำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักร ซึ่งของที่ยังมิได้ ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน ที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดภาษีโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากรอันเป็นความผิดตาม 1 มาตรา 246 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร 2560 ,นำซากสัตว์ (เนื้อกระบือถอดกระดูกแช่แข็ง) เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้อนุญาต ม.31 พ.ร.บ.โรคระบาด และเคลื่อนย้ายซากสัตว์ (เนื้อกระบือถอดกระดูกแช่แข็ง) ข้ามจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต ม.34 พ.ร.บ.โรคระบาด” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ตำรวจ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า การลอบนำเข้าเนื้อซากสัตว์มีความผิดหลายข้อหา และยังเป็นอันตรายต่อสัตว์และประชาชนในประเทศ เนื่องจากอาจมีโรคต่างถิ่นที่กระทบต่อการเลี้ยงสัตว์ของไทย รวมทั้งหวั่นเกรงต่อสารเร่งเนื้อแดงที่อาจปนเปื้อนมากับเนื้อสัตว์ต่างแดนที่ลักลอบนำเข้ามา จะส่งผลอย่างยิ่งต่อสุขภาพคนไทย