วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 เวลา 19:16 น.
ตามนโยบายของ พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และ พล.ต.ต.สถิตย์ พรมอุทัย ผบก.สอท.3 ได้สั่งการให้ทำการระดมจับกุมผู้กระทำผิดตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 โดยเน้นการจับกุมผู้ที่กระทำผิดเกี่ยวกับ ซิมม้า และบัญชีม้า เพื่อปิดกั้นช่องทางการกระทำผิดของคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นั้น
วันที่ 24 พฤษภาคม 2566 พ.ต.อ.พงศ์นรินทร์ เหล่าเขตกิจ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ทำการสืบสวนหาข่าวผู้ที่กระทำผิดในลักษณะดังกล่าวทั้งช่องทางเปิดร้านในแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ และเปิดหน้าร้านแอบแฝง ทั่วทั้งจังหวัดขอนแก่น พบว่ามีผู้กระทำผิดกฎหมายดังกล่าวหลายราย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และขออนุมัติศาลออกหมายค้น จนนำมาสู่ปฏิบัติการปูพรมจับกุมผู้กระทำผิดในจังหวัดขอนแก่น โดยมีเป้าหมาย ดังนี้
1. นำหมายค้นศาลจังหวัดขอนแก่น เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.12 ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น สามารถจับกุมตัว น.ส.ภิญญดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี พร้อมของกลางเป็น ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือค่ายต่างๆ ทั้งหมด 939 หมายเลข ซึ่งลงทะเบียนโดยบุคคลอื่น ซึ่ง น.ส.ภิญญดาฯ ยอมรับว่า ได้เปิดร้านขายซิมการ์ดในระบบแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง เพื่อขายให้บุคคลทั่วไปโดยที่ไม่เคยมีการจดรายละเอียดผู้ซื้อซิมการ์ดไปแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังพบว่ามีซองพัสดุที่ใส่ซิมการ์ดซึ่งเตรียมนำไปส่งให้ลูกค้าที่สั่งซื้อทางแพลตฟอร์มออนไลน์อีกเกือบ 10 ซอง
2. นำหมายค้นศาลจังหวัดขอนแก่น เข้าตรวจค้นตรวจค้นร้านจำหน่ายอุปกรณ์มือถือหนึ่งในพื้นที่ ม.19 ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น จับกุมตัว นายธนกฤติ (ขอสนวนนามสกุล) อายุ 42 ปี พร้อมของกลาง ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งลงทะเบียนโดยบุคคลอื่น จำนวน 4 หมายเลข ซึ่งนายธนกฤติฯยอมรับว่าได้ซื้อซิมการ์ดดังกล่าวมา ครั้งละประมาณ 20-30 ซิมการ์ด แล้วนำมาขายต่อเพื่อเอากำไร โดยที่ไม่เคยมีการจดรายละเอียดผู้ซื้อซิมการ์ดดังกล่าวไปแต่อย่างใด
3. เข้าตรวจสอบที่ ร้านโทรศัพท์มือถือแห่งหนึ่ง ภายในห้างแห่งหนึ่ง ต.เมืองเก่า อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น จับกุมตัว น.ส.กัญญาภัค (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34ปี พร้อมของกลาง ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ ซึ่งลงทะเบียนโดยบุคคลอื่น จำนวน 5 ซิมการ์ด ซึ่ง น.ส.กัญญาภัคฯ ยอมรับว่าได้ซื้อซิมการ์ดดังกล่าวมา โดยซื้อมาครั้งละประมาณ 50 ซิมการ์ด แล้วนำมาขายต่อเอากำไรในราคาซิมละ 200 บาท เนื่องจากเห็นว่ามีกำไรดี โดยที่ไม่เคยมีการจดรายละเอียดผู้ซื้อซิมการ์ดดังกล่าวไปแต่อย่างใด
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย โดยกล่าวหาว่า “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าว โดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ หรือขาย หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนามของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้” ซึ่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องพิเศษ บก.สอท.3 จะได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป