วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 เวลา 17:14 น.
วันที่ 23 พฤษภาคม 2566 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) สั่งการให้ พ.ต.อ.ปกรณ์กิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 พร้อมชุดสืบสวนดำเนินการจับกุม นายวุฒิวิทย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ หรือขายเลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งลงทะเบียนผู้ใช้บริการในนาม ของบุคคลหนึ่งบุคคลใดแล้ว แต่ไม่สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการได้” พร้อมของกลางซิมการ์ด และโทรศัพท์เคลื่อนที่ จับกุมได้ที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ย่านวงเวียนใหญ่ ถนนลาดหญ้า แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้ทำการสืบสวนผู้กระทำความผิดซึ่งเกิดขึ้นในช่องทางสื่อออนไลน์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับ ว่ามีผู้จำหน่ายซิมการ์ดหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้กับโทรศัพท์เคลื่อนที่ เครือข่ายหนึ่ง โดยมีการโฆษณาว่าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วผ่านแอพพิเคชั่นเฟสบุ๊ค ชื่อ SimTrue Noact และสายลับได้ติดต่อสั่งซื้อ ซิมการ์ดโทรศัพท์ดังกล่าวจำนวน 100 ซิมการ์ด ในราคา 3,500-3,700 บาท โดยตกลงนัดส่งซิมการ์ดดังกล่าวในวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 13.30 บาท ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ตรงศูนย์การค้าแห่งหนึ่ง ย่านวงเวียนใหญ่ ถนนลาดหญ้า แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร
ต่อมา วันที่ 22 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 12.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยสายลับได้เดินทางมาที่ศูนย์การค้าดังกล่าว ย่านวงเวียนใหญ่ พบนายวุฒิวิทย์ เดินมานั่งบริเวณใกล้กับสายลับและแสดงตัวเป็นผู้ใช้แอพพิเคชั่นเฟสบุ๊ค ชื่อ SimTrue Noact นำซิมการ์ดโทรศัพท์จำนวน 100 ซิมการ์ดส่งมอบให้กับสายลับ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือไอโฟน 8 พลัส ซึ่งใช้ในการขายซิมการ์ดโทรศัพท์จำนวน 100 ซิมการ์ด ให้กับสายลับไป โดยติดต่อซื้อขายผ่านแอพพิเคชั่นเฟสบุ๊ค ชื่อ SimTrue Noact
เบื้องต้น นายวุฒิวิทย์ฯ ยังให้การอีกว่าตนได้จำหน่ายซิมการ์ดโทรศัพท์ (ลงทะเบียนแล้ว) มาแล้วประมาณ 2 เดือน โดยซื้อซิมการ์ดมาจากผู้แทนจำหน่ายซิมการ์ดราคาซิมการ์ดละประมาณ 25 บาท แล้วนำมาลงทะเบียนผ่านแอพพลิเคชั่น True Chanel Care ด้วยข้อมูลของบุคคลต่างด้าว จากนั้นนำมาจำหน่ายในราคาซิมการ์ดละ 35 บาท หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป