ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยถึงสรุปผลการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ณ กรุงพนมเปญกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5 - 17 พฤษภาคม 2566 ว่าในการแข่งขันครั้งนี้ มีการแข่งขันทั้งหมด 38 ชนิดกีฬา ชิงเหรียญ 584 เหรียญทอง ประเทศไทย โดยคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ส่งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 1,266 คน แบ่งเป็นนักกีฬา 847 คน และเจ้าหน้าที่ 419 คน ซึ่งผลการแข่งขันในภาพรวมประเทศไทยได้เป็นอันดับ 2 โดยได้เหรียญทอง 108 เหรียญ, เหรียญเงิน 96 เหรียญ และเหรียญทองแดง 108 เหรียญ รวม 312 เหรียญ สำหรับอันดับ 1 ประเทศเวียดนามได้ 136 เหรียญทอง (สูงกว่าไทย 28 เหรียญ) และเจ้าภาพกัมพูชาได้ 81 เหรียญทอง (กัมพูชาได้ 9 เหรียญทองจากซีเกมส์ที่ผ่านมา)

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในกีฬาสากล ประเทศไทย ได้อันดับ 1 จำนวน 54 เหรียญทอง อันดับ 2 เวียดนาม 52 เหรียญทอง และอันดับ 3 อินโดนีเซีย 35 เหรียญทอง สำหรับเจ้าภาพกัมพูชา ได้ 10 เหรียญทอง โดยชนิดกีฬาที่ทำผลงานเมื่อเทียบกับเป้าหมายที่สมาคมกีฬาเสนอไว้ใน Meet the Press สูงกว่าเป้าหมายจำนวน 8 ชนิดกีฬา, ตามเป้า 20 ชนิดกีฬา, ต่ำกว่าเป้า 14 ชนิดกีฬา และมีจำนวน 9 ชนิดกีฬาที่ไม่ได้เหรียญทอง (สำหรับทุกชนิดกีฬาได้เหรียญรางวัลในการแข่งขันครั้งนี้)

“ในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 นี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมชาติไทยที่โรงแรม Oakwood โดยได้อำนวยความสะดวกและช่วยเหลือนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิคไทยฯ รวมทั้งจัดตั้งศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อฟื้นฟูนักกีฬาหลังจากการแข่งขันในแต่ละวัน และให้บริการด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาในทุกด้าน รวมทั้งจัดให้มีรถโมบายวิทยาศาสตร์การกีฬาเคลื่อนที่ นำเครื่องมือไปให้บริการที่สนามแข่งขันทุกวันตลอดการแข่งขัน โดยมีผู้ใช้บริการ 2,270 ราย ในส่วนของเงินรางวัลนักกีฬาในการแข่งขันครั้งนี้ โดยประมาณ 240,000,000 บาท โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติกำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบอีกครั้ง สำหรับปัญหาอุปสรรคจากการแข่งขันที่เราพบ ได้แก่ เรื่องสนามฝึกซ้อมไม่เพียงพอและไม่ได้มาตรฐานในหลายชนิดกีฬา, เรื่องที่พักในหมู่บ้านนักกีฬาไม่เหมาะสมในชนิดกีฬาที่นักกีฬามีร่างกายสูง เช่น กีฬาบาสเกตบอล เป็นต้น รวมทั้งเรื่องเจ้าภาพที่มีผลต่อการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ทำให้นักกีฬาไทยเสียโอกาสพลาดเหรียญรางวัล ในหลายชนิดกีฬา”