โยลันดา ดิแอซ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานและเศรฐกิจสังคมของสเปน กล่าวเมื่อวันพุธ ที่ผ่านมาหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ เพื่อรับมือกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั่วประเทศว่า เนื่องจากประเทศเผชิญอุณหภูมิสูงบ่อยขึ้นอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยสเปนจะห้ามการทำงานกลางแจ้งในช่วงที่มีสภาพอากาศร้อนจัด โดยคำสั่งห้ามดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ ก็ต่อเมื่อหน่วยงานด้านสภาพอากาศแห่งชาติ หรือ AEMET ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่รุนแรงหรือเสี่ยงต่ออุณหภูมิสูง ซึ่งรวมทั้งอุณหภูมิสูงกว่า 39 องศาเซลเซียส

มาตรการดังกล่าวจะมีผลกระทบบังคับใช้กับการทำงานกลางแจ้ง เช่น การทำความสะอาดถนน และการเกษตร “เราได้เห็นมาหลายตอนแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมาก ในการทำความสะอาดและเก็บขยะที่คนงานเสียชีวิตจากอาการฮีทสโตรก การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อผู้คนอยู่แล้ว ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องดำเนินการ” ดิแอซกล่าวกับผู้สื่อข่าว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่รัฐบาลนำโดยพรรคสังคมนิยมจะอนุมัติในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อตอบสนองต่อปัญหาภัยแล้งที่ยืดเยื้อซึ่งกำลังกระทบพื้นที่บางส่วนของสเปน เพื่อปรับตัวให้เข้ากับความร้อน บางภูมิภาค เช่น ทางตอนใต้ของแคว้นอันดาลูเซียหรือกรุงมาดริดอนุญาตให้นักเรียนกลับบ้านก่อนเวลาในกรณีที่เกิดคลื่นความร้อน รวมทั้งการจัดสรรเงินจำนวน 2,190 ล้านยูโร หรือกว่า 80,000 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบ

ขณะที่อ่างเก็บน้ำของสเปนโดยเฉลี่ยมีปริมาณน้ำต่ำกว่า 50% ของความจุ ขณะที่ระดับน้ำลดลงเหลือประมาณ 25% ในแคว้นอันดาลูเซียและแคว้นกาตาลุญญาทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ 2 แห่งที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด สเปนกำลังเผชิญกับการเริ่มต้นปีที่แห้งแล้งที่สุดตั้งแต่เริ่มมีการจดสถิติ โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ มีปริมาณฝนตกไม่ถึงครึ่งของค่าเฉลี่ย และจนถึงปีนี้ สเปนมีวันที่ร้อนกว่าปกติถึง 11 วัน ซึ่งมากกว่าสองเท่าของจำนวนปกติที่สังเกตได้ตลอดทั้งปี