หน้าแรก > อาชญากรรม

รวบหลานนรก มือฆ่าปาดคอเถ้าแก่เนี๊ยร้านรับซื้อของเก่า ก่อนจุดไฟเผาร่างอำพรางคดี จ.นนทบุรี

วันที่ 11 พฤษภาคม 2566 เวลา 04:50 น.


รวบหลานนรก มือฆ่าปาดคอเถ้าแก่เนี๊ยร้านรับซื้อของเก่า ก่อนจุดไฟเผาร่างอำพรางคดี จ.นนทบุรี

วันที่ 10 พฤษภาคม 2566 ตำรวจสืบสวนภาค1 สืบจังหวัดนนทบุรี และสืบสภ.บางบัวทอง นำกำลังเข้าจับตัวนายพงศ์ภัทร หรือ แจ๊ค ได้ที่บ้านเลขที่ 11 ม.5 ต.บางพลี อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน กพต 160 ศรีษะเกษ สร้อยข้อมือทองคำนำหนัก 1 บาท ก่อนนำตัวมาสอบสวน สภ.บางบัวทอง

กรณีเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2566 ศูนย์วิทยุ สภ.บางบัวทอง รับแจ้งหญิงเสียชีวิต ที่ร้านรับซื้อของเก่า หน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ น.ส.วรรณา อายุ 52 ปี สภาพศพมีบาดแผลไฟไหม้​บริเวณใบหน้ากับลำตัว ขณะที่ข้อมือและข้อเท้าถูกมัดด้วยสายไฟเสียชีวิตอยู่บริเวณภายในห้อง หลังนำศพส่ง รพ.ศูนย์ธรรมศาสตร์ รังสิต ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด ซึ่งผลการตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตถูกฆ่าปาดคอเสียชีวิตก่อนจะถูกเผาอำพราง

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง ได้นำตัว นายสุทโธ สามีคนตาย, นางบุญล้อม พี่สาวนายสุทโธ, และหลานของนายสุทโธ มาสอบปากคำ ทั้งหมดให้การปฏิเสธไม่รู้เรื่องการเสียชีวิตของน.ส.วรรณา ต่อมาทางทีมชุดคลี่คลายคดี ได้ข้อมูลว่ามีหลานของนายสุทโธอีกคน คือนายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค จันทรเสนา อายุ 35 ปี เคยเป็นคนงานทำงานที่ร้านนี้แล้วถูกไล่ออกเนื่องจากประพฤติตัวไม่ดี ประกอบกับข้อมูลหลักฐานที่ทางตำรวจได้มาจากชาวบ้านที่อยู่ใกล้ร้านรับซื้อของเก่าให้ข้อมูลว่าเห็นรถจักรยานยนต์ สีแดง ขับออกจากหน้าร้านในช่วงเวลาประมาณ 05.00 น. ตำรวจจึงได้ไล่กล้องตรวจสอบเส้นทางพบว่ารถคันดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา จึงนำกำลังไปตรวจสอบพบว่าเป็นคนของนายหนุ่ม(นามสมมุติ) ให้ข้อมูลว่านาย พงษ์ภัทร หรือแจ๊ค ขอยืมไปใช้โดยไม่ทราบว่านายพงษ์ภัทร นำไปก่อเหตุ ตำรวจจึงรถคันดังกล่าวมาตรวจสอบ

ต่อมาตำรวจได้นำกำลังบุกเข้าจับกุมตัวนายพงศ์ภัทร หรือ แจ๊ค ได้ที่บ้านเลขที่ 11 ม.5 ต.บางพลี อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา นำตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนนายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค รับสารภาพว่า เป็นคนที่ลงมือฆ่า น.ส.วรรณา จริง โดยอ้างว่า วันที่เกิดเหตุนั้นตั้งใจที่จะไปขโมยของในร้านขายของเก่า แต่ผู้ตายตื่นมาเจอแล้วขู่ว่าจะโทรศัพท์บอกนายสุทโธ ตนกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีจึงไปแย่งโทรศัพท์ ขณะที่ผู้ตายตะโกนร้องให้คนอื่นมาช่วยจึงใช้ผ้าอุดปากเพื่อไม่ให้ผู้ตายส่งเสียงร้องเรียกให้คนมาช่วย แล้วใช้สายไฟมัดมือและเท้าของผู้ตาย หลังจากนั้นจึงใช้มีดปาดที่ลำคอของผู้ตาย แล้วได้เอาสร้อยข้อมือทองคำของผู้ตายไปด้วย ก่อนที่จะจุดเทียน แล้วนำเศษกระดาษทำเป็นเชื้อเพลิง เพื่อที่จะให้เกิดเพลิงไหม้ในร้านขายของเก่าเพื่อที่จะอำพรางศพ หลังจากนั้นก็ขับรถหลบหนีแล้วนำทองไปขายที่ร้านทองแถวอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

ต่อมา พล.ต.ท. จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภาค 1 เดินทางมาที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อสอบปากคำนายพงษ์ภัทร หรือแจ๊ค เพื่อถามสาเหตุแรงจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ ก่อนจะให้ทางพนักงานสอบสวนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายสุทโธ สามีคนตาย ให้ข้อมูลทั้งน้ำตาว่า ไม่คิดว่าจะเป็นหลานที่ก่อเหตุครั้งนี้ ทั้งที่ผู้ตายคอยดูแลเมตตาสงสารมาตลอด เมื่อก่อนเคยทำงานที่ร้านแต่พฤติกรรมไม่ดีตนจึงไล่ออกจากงาน ผู้ตายสงสารยังให้ไปพักอยู่ที่ห้องพักด้านนอก ไม่คิดว่าเขาจะเหี้ยมโหดแบบนี้ ตนอยากให้เขาได้รับกรรมตายตกตามไป 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

 ผู้การฯ นนท์ เผย 'เหตุไฟคลอกสาวใหญ่ดับปริศนา' คาดเป็นการฆาตกรรม จ.นนทบุรี  

 ตำรวจบางบัวทอง ลงหาหลักฐานใหม่ หลังแพทย์พิสูจน์พบ 'รอยปาดคอด้วยของมีคม' จ.นนทบุรี 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม