วันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เวลา 10:32 น.
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 4 พ.ค.66 พ.ต.ท.รพีพงษ์ จิตต์บุญธรรม (สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุชายถูกแทงเสียชีวิต ที่บริเวณข้างถนนติวานนท์ หน้าชุมชนริมคลองบางตลาด ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครป่อเต็กตึ้ง และแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รุดตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นทางเท้าริมถนนติวานนท์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้ากรมชลประทาน พบผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนหงาย มีเลือดเต็มตัว สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลที่ต้นคอด้านซ้าย กลางหลังและต้นแขน ทราบชื่อคือ นายเติมศักดิ์ฯ อายุ 45 ปี รปภ.บริษัทแห่งหนึ่ง ย่านเกษตร ใกล้ศพพบรถ จยย. 1 คัน ตรวจสอบตามถนนเลียบคลองบางตลาด ทางเข้าชุมชนมีรอยเลือดหยดเป็นทาง พบมีดสั้นยาวประมาณ 5 นิ้วทิ้งอยู่ข้างประตูห้องไม่มีเลขที่ เป็นห้องที่ชาวบ้านกั้นอยู่ใต้สะพานข้ามคลองบางตลาด ตรวจสอบในห้องพักไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ส่วนผู้ก่อเหตุพยานแจ้งว่าคือ นายมานะฯ อายุ 38 ปี หลังเกิดเหตุจับตัวภายในห้องพักของผู้ก่อเหตุ
สอบสวน นายมานะฯ ผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ตนเดินเล่นอยู่บริเวณถนนเลียบคลอง ตนไม่รู้จักกับผู้เสียชีวิต เมื่อผู้เสียชีวิตเดินผ่านตนได้ให้ของลับกับตน ตนจึงได้ใช้มีดพกที่พกติดตัวอยู่ตลอดแทงไป จากนั้นตนก็เข้าไปนอนในห้องพัก ซึ่งตนไม่ทราบว่าเขาเสียชีวิตแล้ว
จากการสอบถาม นางปราณีฯ อายุ 59 ปี อาของผู้ก่อเหตุ ทราบว่า มีคนร้องว่ามีคนถูกแทง ตนจึงรีบวิ่งไปดู ตนไม่รู้จักว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร ส่วนคนแทงเป็นหลานชายของตน อาศัยอยู่ที่ห้องดังกล่าว ซึ่งอาศัยอยู่คนเดียวและก็ป่วยต้องทานยา ตอนกลางวันตนจะเป็นคนมาอยู่เป็นเพื่อนแต่ตอนกลางคืนจะไม่ได้มาเพราะกลัวไม่รู้ว่าหลานชายออกมาตอนไหน
ต่อมา นางกิมเตียงฯ แม่ผู้เสียชีวิตเดินทางมาที่เกิดเหตุ เห็นศพลูกชายจึงร้องไห้เหมือนจะเป็นลม ให้การว่าตนอาศัยอยู่ในซอยทรายทอง ลูกชายออกมาจากบ้านช่วงเช้าโดยขับรถ จยย.ออกมาจากบ้านบอกว่าจะไปซื้อของที่ตลาดประชานิเวศน์ จากนั้นโทรติดต่อลูกไม่ได้ จึงออกมาตามรู้สึกสังหรณ์ใจ พอทราบว่ามีเหตุแทงกันตายจึงแวะมาดูจำรถจยย.ลูกชายได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะถูกแทงบริเวณทางเดินเลียบคลอง จากนั้นวิ่งหนีขึ้นมาเสียชีวิตริมถนนติวานนท์ จากนั้นได้ตวบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนที่สภ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งพบว่าผู้ก่อเหตุยังใส่กำไลอีเอ็มที่เท้า และมีประวัติเพิ่งพ้นโทษออกมา ก่อนมาก่อเหตุซ้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนต่อไป