หน้าแรก > อาชญากรรม

ตำรวจท่องเที่ยว รวบสาวแสบตระเวนลักทรัพย์นักท่องเที่ยวตามสนามบินและห้างสรรพสินค้า

วันที่ 27 เมษายน 2566 เวลา 04:27 น.


ตำรวจท่องเที่ยว รวบสาวแสบตระเวนลักทรัพย์นักท่องเที่ยวตามสนามบินและห้างสรรพสินค้า

เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 26 เม.ย.66 พล.ต.ท.สุคุณ พรหมายน ผบช.ทท. สั่งการให้ พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.1 บก.ทท.1 พ.ต.ท.มนพร ลิขิตมานนท์ รอง ผกก.1 บก.ทท.1 และ พ.ต.ท.นิมิตร จรรยาลักษณ์ สว.กก.1 บก.ทท.1 นำกำลังจับกุมตัว น.ส.พรทิพย์ คันธรักษ์ หรือทิพย์ อายุ 53 ปี พร้อมของกลาง กระเป๋าสตางค์ของผู้เสียหาย 1 ใบ ภายในมีเงินสดสกุลเปโซของประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 23,000 เปโซ หรือประมาณ 14,230 ไทย โดยจับกุมตัวได้ขณะนั่งรับประทานอาหารอยู่ภายในร้านเบอร์เกอร์คิง ย่านสยามสแควร์ ถนนพระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน กทม. ก่อนขยายผลไปตรวจค้นที่ห้องพักผู้ต้องหา ภายในซอยประชาร่วมใจ 62 ท้องที่ สน.มีนบุรี ยึดยาบ้าได้อีก 293 เม็ด และไอซ์ หนัก 1.26 กรัม

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง ว่า ถูกคนร้ายลักทรัพย์เป็นกระเป๋าถือแบบผู้หญิงสีขาวยี่ห้อ YSL ซึ่งเผลอวางเอาไว้บนกระเป๋าเดินทาง ขณะกำลังแวะซื้อของในร้านสะดวกซื้อ บริเวณประตู 8 ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยในกระเป๋าถือดังกล่าวมีเงินไทยประมาณ 15,000 บาท เงินสกุลมาเก๊า จำนวน 16,000 ดอลลาร์ฮ่องกง และทรัพย์สินอื่นๆ มูลค่าเกือบ 100,000 บาทไทย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวได้ลงพื้นที่แกะรอยสืบสวนจากกล้องวงจรปิด ภายในสนามบิน พบว่า น.ส.พรทิพย์ เป็นผู้ก่อเหตุ โดย น.ส.พรทิพย์ นั้น มีประวัติเคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์นักท่องเที่ยวและผู้เสียหายในสนามบินรวมถึงห้างสรรพสินค้าหลายแห่งมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง เพิ่งพ้นโทษออกมา เมื่อปี 2564 แต่ก็มาก่อเหตุซ้ำอีก

กระทั่งเมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ชุดจับกุมติดตามพบตัว น.ส.พรทิพย์ มาปรากฏตัวย่านสยามสแควร์ จึงเข้าทำการขอตรวจค้นพบว่า เพิ่งลงมือก่อเหตุล้วงเอากระเป๋าเงินจากผู้เสียหายชาวฟิลิปปินส์รายหนึ่งมาหมาดๆ จึงจนมุมพร้อมของกลางขณะกำลังนั่งรับประทานอาหาร จากการตรวจสอบข้อมูลยังไม่พบว่าเจ้าของกระเป๋าเงินเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด จึงประสานสถานทูตฟิลิปปินส์เพื่อติดตามหาตัวผู้เสียหาย ให้เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน และอายัดตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายเพิ่มเติม

จากการสอบสวน น.ส.พรทิพย์ ให้การยอมรับว่า ถูกตำรวจจับดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์มาแล้วหลายครั้ง ก่อนที่จะพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2564 ได้สามี 1 คน แต่ก็พากันเสพยา ตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ค้ายาบ้าและยาไอซ์ให้กับวัยรุ่นย่านมีนบุรี จนเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา สามีถูกจับพร้อมยาเสพติด ทำให้ต้องอยู่ลำพังเงินขาดมือไม่มีรายได้ จึงตัดสินใจมาหาล้วงกระเป๋า และลักทรัพย์นักท่องเที่ยวตามสนามบินและนักท่องเที่ยวที่มาเดินตามห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เพื่อนำเงินไปใช้จ่ายรายวัน

จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบที่ห้องพักของ น.ส.พรทิพย์ ก็พบยาเสพติดของกลางและอุปกรณ์การเสพ นอกจากนี้ยังพบว่าเจ้าตัวมีหมายจับคดีลักทรัพย์ในท้องที่ สน.ปทุมวัน และ สน.มีนบุรี ติดตัวอยู่ด้วย จึงแจ้งข้อหา "ลักทรัพย์, ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย และข้อหาเสพยาเสพติด" แก่ น.ส.พรทิพย์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน และติดต่อพนักงานสอบสวนท้องที่ที่พบการกระทำความผิดมาอายัดตัวไปดำเนินคดีต่อไป

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม