หน้าแรก > สังคม

เช็กด่วน โมบายแบงกิ้ง ธนาคารไหนบ้าง ที่ต้องยืนยันตัวตนที่สาขา ก่อนทำธุรกรรม

วันที่ 21 เมษายน 2566 เวลา 21:19 น.


กรณีธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ถูกมิจฉาชีพหลอกลวง ทั้ง SMS หลอกลวง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอพพลิเคชั่นให้สินเชื่อปลอม และแอพพลิเคชั่นดูดเงิน ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมีหลายหลายรูปแบบ ทางธนาคารแห่งประเทศไทย จึงได้ออกมาตรการป้องกันการทุจริตทางการเงิน เพื่อปิดช่องทางมิจฉาชีพ ได้แก่

1. ให้สถาบันการเงิน งดการส่งลิงก์ทุกประเภทผ่าน SMS อีเมล และงดส่งลิงก์ขอข้อมูลสำคัญ เช่น ชื่อผู้ใช้งาน รหัสผ่าน และเลขบัตรประชาชนผ่านโซเชียลมีเดีย จำกัดจำนวนบัญชีผู้ใช้งาน mobile banking (username) ของแต่ละสถาบันการเงินให้ใช้ได้ใน 1 อุปกรณ์เท่านั้น

2. มาตรการตรวจจับและติดตามบัญชี หรือธุรกรรมต้องสงสัย เพื่อให้สถาบันการเงิน ช่วยจำกัดความเสียหายได้เร็วขึ้น และลดการใช้บัญชีม้า ธปท. จะกำหนดเงื่อนไขการตรวจจับและติดตามธุรกรรมเข้าข่ายผิดปกติ หรือกระทำความผิด เพื่อให้สถาบันการเงินรายงานไปสำนักงาน ปปง. รวมทั้งให้สถาบันการเงิน ต้องมีระบบตรวจจับและติดตามบัญชี หรือธุรกรรมต้องสงสัยแบบ near real-time เพื่อให้สามารถระงับธุรกรรมได้ทันทีเป็นการชั่วคราวเมื่อตรวจพบ

3. มาตรการตอบสนองและรับมือ เพื่อจัดการปัญหาให้ผู้เสียหายได้เร็วขึ้น ให้สถาบันการเงินทุกแห่งต้องมีช่องทางติดต่อเร่งด่วน (hotline) ตลอด 24 ชั่วโมง แยกจากช่องทางให้บริการปกติ เพื่อให้ผู้ใช้บริการแจ้งเหตุได้โดยเร็ว รวมทั้งให้ดูแลรับผิดชอบผู้ใช้บริการ หากพบว่าความเสียหายเกิดจากข้อบกพร่องของสถาบันการเงิน

จากมาตรการดังกล่าว ทำให้ธนาคารหลายแห่ง ได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการโมบาย แบงกิ้ง นำบัตรประชาชน ไปยืนยันตัวตน พร้อมสแกนใบหน้า ในกรณีที่ต้องทำธุรกรรมบางอย่างก่อนเดือนพฤษภาคมนี้ อาทิ

1. ธนาคารออมสิน
– รายการโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ ยอดสะสมต่อวัน ครบทุก 200,000 บาท
– ปรับเพิ่มวงเงินโอนเงิน จ่ายเงินผ่านแอพพ์

2.ธนาคารกรุงเทพ
– รายการโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ ยอดสะสมต่อวัน ครบทุก 200,000 บาท
– ปรับเพิ่มวงเงินโอนเงิน จ่ายเงินผ่านแอพพ์

3.ธนาคารไทยพาณิชย์
– รายการโอนเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปต่อรายการ ยอดสะสมต่อวัน ครบทุก 200,000 บาท
– ปรับเพิ่มวงเงินโอนเงิน ตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม