เพจเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความระบุ ปัญหา บ้านเรือนรุกล้ำริมคลองเป็นปัญหาที่มีมานาน โดยเฉพาะคลองหลักในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อาทิ คลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว และคลองแสนแสบ ซึ่งทั้ง 3 คลองเป็นคลองระบายน้ำหลักของกรุงเทพมหานคร หากไม่ได้รับการขุดลอกอาจตื้นเขินเกินกว่าจะรับน้ำฝนได้เท่าที่ควร ทำให้ท่วมเอ่อล้นกระทบบ้านเรือนในวงกว้างหากฝนตกหนัก

กทม.ได้เจรจาสร้างความเข้าใจประชาชนที่สร้างบ้านเรือนรุกล้ำริมคลองมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทำได้เพียงแค่ขอความร่วมมือ เนื่องจากประชาชนอยู่อาศัยมานาน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ ทั้งการสร้างเขื่อน และการขุดลอกคลอง ปัจจุบันสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำริมคลองลาดพร้าวมีจำนวนทั้งสิ้น 6,566 หลัง ดำเนินการรื้อย้ายแล้ว 2,767 หลัง ยังไม่รื้อย้าย 3,799 หลัง คลองเปรมประชากรมีสิ่งปลูกสร้างรกล้ำริมคลอง 4,398 หลัง กำหนดแผนรื้อย้ายบ้านรุกล้ำตั้งแต่เดือน มี.ค.- ก.ย. 66 และคลองแสนแสบ มีสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำ 40 หลัง ยังไม่รื้อย้ายทั้ง 40 หลัง

อย่างไรก็ดี กรุงเทพมหานครได้ประชุมติดตามความคืบหน้าแนวทางการพัฒนาคลองหลักทั้ง 3 แห่ง อย่างต่อเนื่อง ซึ่งผู้บริหารกรุงเทพมหานครได้เน้นย้ำให้สำนักการระบายน้ำ สำนักงานเขตพื้นที่ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ กรมธนารักษ์ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) (พอช.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ลงพื้นที่เจรจาสร้างความเข้าใจกับชุมชนที่รุกล้ำแนวก่อสร้างเขื่อน ให้เห็นถึงความสำคัญของส่วนรวมและประโยชน์ที่ได้รับจากการก่อสร้างเขื่อน รวมทั้งก่อสร้างบ้านมั่นคงเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถดำเนินการรื้อย้ายสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำและให้งานสร้างเขื่อนเป็นไปตามเป้าหมาย

แต่สุดท้ายหากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่รุกล้ำแนวคลอง ปัญหาการป้องกันน้ำท่วมและการเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำอาจต้องใช้เวลาดำเนินการนานกว่าที่คิด