24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 17 เมษายน 2566

>> ตร.เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เหตุยิงกันงานสงกรานต์ RCA

08..00 น. กรณีเหตุยิงกันในงานสงกรานต์ที่สถานบันเทิงย่าน RCA จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำที่ สน.มักกะสัน 
ล่าสุด พ.ต.อ.เอกศักยะ แสงวรรณ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหา เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือ นายณัฐนนท์ อายุ 41 ปี และนายณัฐพล อายุ 19 ปี มีความผิดในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน ซึ่งผู้ต้องหารู้จักกันและนัดกันมาเที่ยวสถานบันเทิงดังกล่าว แต่เมื่อมาถึงได้เจอกับคู่อริ มีปากเสียงและชกต่อยกัน ก่อนจะเกิดเหตุยิง แต่ผู้ต้องหาให้การเพียงว่าไม่ได้เป็นคนยิง

ส่วนผู้บาดเจ็บที่ถูกกระสุนปืนมี 6 คน ทั้งหมดเป็นนักท่องเที่ยวที่ถูกลูกหลง ไม่ได้รู้จักกับกลุ่มผู้ก่อเหตุและกลุ่มคู่อริแต่อย่างใด ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิดในช่วงก่อนเกิดเหตุและช่วงระหว่างเกิดเหตุ เพื่อดูเหตุการณ์ เบื้องต้นได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหน้าร้านแล้ว เหลือเพียงกล้องวงจรปิดภายในร้าน ทำให้ทราบว่าทั้ง 2 กลุ่มมีคนรวมกันประมาณ 10 คน

ส่วนผู้ต้องหานำอาวุธเข้าไปในร้านได้อย่างไรนั้น รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้แอบซุกซ่อนนำเข้าไป ทั้งที่มีการตรวจอาวุธและตรวจร่างกายก่อนเข้าไปในร้าน และจากการตรวจสอบอาวุธปืนสั้น berets ขนาด .380 มม. และอาวุธปืนยี่ห้อ sigaur ขนาด 9 มม. เป็นปืนที่มีทะเบียน แต่ไม่ตรงกับชื่อของผู้ต้องหา ซึ่งตำรวจกำลังขยายผลไปยังเจ้าของอาวุธปืน รวมถึงขยายผลไปถึงกลุ่มผู้ก่อเหตุและฝ่ายคู่อริ คาดว่า 1-2 วันนี้จะได้ตัวทั้งหมด

>> ปภ. รายงานเกิดสถานการณ์วาตภัยในพื้นที่ 10 จังหวัด เร่งสำรวจความเสียหาย

09.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานเมื่อวันที่ 15 -17 เม.ย. 66 มีสถานการณ์วาตภัยในพื้นที่ 10 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ สุรินทร์ ชัยภูมิ สกลนคร อุบลราชธานี อุดรธานี ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช รวม 37 อำเภอ 86 ตำบล 235 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,781 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย

ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือประชาชน

>> คุมประพฤติเผย เมาขับนำโด่ง 6 วัน 6,705 คดี

10.00 น. นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึง สถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ (16 เมษายน 2566) มีจำนวนทั้งสิ้น 843 คดี จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 836 คดี และคดีขับเสพ 7 คดี สำหรับยอดรวมสะสม 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 11 – 16 เมษายน 2566 มีจำนวน 6,959 คดี

จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 6,705 คดี คดีขับรถประมาท 23 คดี คดีขับซิ่ง 1 คดี และคดีขับเสพ 230 คดี

หากเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่ 6 ของ 7 วันอันตราย ปีพ.ศ. 2565 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 1,145 คดี ปี พ.ศ. 2566 มีจำนวน 836 คดี ลดลง 309 คดี ทั้งนี้จังหวัดที่มีสถิติคดีเมาแล้วขับสะสมสูงสุด 3 อันดับได้แก่ กรุงเทพมหานคร 435 คดี รองลงมา นนทบุรี 333 คดี และอันดับสามร้อยเอ็ด 331 คดี

>> ศปถ. เผย 6 วันเสียชีวิตแล้ว 236 ราย

10.30 น. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2566 สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 16 เมษายน 2566 เกิดอุบัติเหตุ 263 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 36 ราย ผู้บาดเจ็บ 268 คน สถิติอุบัติเหตุสะสม 6 วัน (11 - 16 เมษายน 2566) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,008 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 236 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,005 คน

สรุปสถิติอุบัติเหตุทางถนนสะสม 6 วัน (วันที่ 11 – 16 เมษายน 2566) เกิดอุบัติเหตุรวม 2,008 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 236 ราย ผู้บาดเจ็บ 2,005 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน (62 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร (20 ราย) และจังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน (63 คน) จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต 2 จังหวัด

>> ผู้โดยสารเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ กว่า 5.4 หมื่นคน

10.58 น. ดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (16 เม.ย. 66) มีประชาขนเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ (เที่ยวกลับ) ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 จำนวน 54,110 คน ใช้รถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) จำนวน 3,970 เที่ยว ส่วนการเดินทางออกจากกรุงเทพฯ (เที่ยวไป) มีผู้โดยสารใช้บริการ 39,122 คน ใช้รถโดยสาร จำนวน 3,462 เที่ยว ส่วนวันนี้ (17 เม.ย. 66) คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนเดินทางเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากวันพรุ่งนี้เป็นวันแรกของการเปิดทำงาน หลังจากหยุดยาวต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์

>> วิ่งราวร้านทองกลางห้างเมืองบางพลี ได้ทองรูปพรรณ มูลค่า 2 แสนกว่าบาท

13.05 น. สภ.บางเสาธง รับแจ้งเหตุวิ่งราวทรัพย์ สถานที่เกิดเหตุ ร้านทองออโรร่า ภายในห้างสรรพสินค้าเยส-บางพลี หมู่ 1 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ

พบพนักงานร้านฯ ให้การว่า คนร้ายเป็นผู้ชาย อายุประมาณ 35 ปี รูปร่างสันทัด สูงประมาณ 165 ซม. ผิวดำแดง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีเทาลักษณะคล้ายเสื้อกีฬา กางเกงขายาวสีออกดำ สวมรองเท้าแตะ ใส่แมสสีดำ ได้เข้ามาขอดูสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 2 บาท พนักงานขายจึงหยิบมาให้คนร้ายดูจำนวน 3 เส้น และสร้อยหนัก 2 สลึงพร้อมจี้รูปพระ (สินค้าโปรโมชั่น) จากนั้นคนร้ายได้ทำทีลองสวมใส่และเมื่อพนักงานเผลอจึงได้คว้าสร้อยคอทองคำทั้งหมด รวมมูลค่าประมาณ 233,000 บาท วิ่งหลบหนีออกประตูห้าง และขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเงน้ำเงิน-เทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมหมวกกันน๊อคสีเขียว ขับหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้ตรวจสอบกล้องวงวรปิดภายในห้างทั้งก่อน ขณะ และหลังเกิดเหตุ และกำลังไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทางคนร้ายหลบหนี ผลคืบหน้าประการใดจะรายงานให้ทราบต่อไป

>> โจรบุกเดี่ยว ชิงทรัพย์ได้ทองรูปพรรณ 6 บาท

15.00 น. สภ.กระทุ่มแบน ได้รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์ร้านทอง ถนนสุคนธวิท ต.ตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร

จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์เบื้องต้นให้ข้อมูลว่า ตนเองยืนเลือกทองอยู่ในร้าน ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่คนร้ายเข้ามาทำทีเป็นขอดูสร้อยทองจากพนักงานเส้นละ 2 บาท เพื่อจะเอาไปแต่งงาน กระทั่งตอนที่พนักงานหันไปจะหยิบทองมาให้ดูใหม่ตามที่คนร้ายชี้บอกนั้น คนร้ายก็ใช้จังหวะดังกล่าวคว้าสร้อยทองไปแล้วก็ชักปืนขึ้นมาขู่พนักงานให้เปิดประตู พนักงานก็เลยต้องเปิดประตูให้คนร้ายวิ่งออกไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขับหลบหนี โดยคนร้ายนั้นเป็นชายรูปร่างเล็ก ใส่เสื้อสีเทาแขนยาว กางเกงยีนส์ขายาว ใส่แว่นตา ผมหยิก สำหรับทองคำที่คนร้ายได้ไปเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนักเส้นละ 2 บาท จำนวน 3 เส้น รวมทั้งสิ้น 6 บาท คิดเป็นมูลค่าเกือบ 2 แสนบาท ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งสกัดจับคนร้ายตามเส้นทางที่คาดว่าจะหลบหนีไป อีกทั้งยังได้มีการติดตามภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามตัวคนร้ายรายนี้มาให้ได้โดยเร็วที่สุด

>> อุบัติเหตุหมู่ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย

15.36 น. สภ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุรถชนกันหลายคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายรายมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ในรถ เหตุเกิดบนถนนสาย 2256 เส้นทาง ชัยบาดาล-ด่านขุนทด ช่วงกม.ที่ 69-70 ในพื้นที่ บ้านดอนตะเคียน ต.ตะเคียน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา

ที่เกิดเหตุ พบรถหกล้อบรรทุกน้ำมัน ยี่ห้ออีซูซุ สีเหลือง ทะเบียน นครราชสีมา จอดอยู่ในเลนซ้าย พบร่องรอยการชนบริเวณหน้ารถ จอดอยู่ท้ายรถอเนกประสงค์ ซูซูกิ เอ๊กซ์แอล 7 สีขาว ทะเบียน กทม. จอดอยู่ในสภาพชนกับรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีทอง ทะเบียน  นครราชสีมา มีผู้โดยสารติดอยู่ภายในรถเก๋ง พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย โดยอาสากู้ภัยช่วยเหลือและนำส่ง รพ.ด่านขุนทด จำนวน 3 ราย และนำส่ง รพ.มหาราชนครราชสีมา จำนวน 2 ราย

ทั้งนี้ มีผู้บาดเจ็บรายหนึ่งเป็นผู้หญิง ติดอยู่ภายในด้านหลัง จากการถูกชนอัดจากด้าน หน่วยกู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่าง 2 เครื่อง ช่วยนำร่างออกมา พบบาดแผลที่ช่องท้อง และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

เบื้องต้น นายแสงดาว คนขับรถบรรทุกน้ำมันเล่าว่า ตนขับรถตามหลังรถเก๋ง มุ่งหน้าม่วงค่อม เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีรถกระบะ สวนเลนมาประสานงากับรถเก๋งอย่างกระชั้นชิด ทำให้ตนเบรกบังคับรถไม่อยู่ชนท้ายรถเก๋ง ในส่วนของสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวน

>> บขส. แจงเหตุวินเถื่อนหลอกฟันค่าโดยสาร พร้อมยืนยันห้องน้ำในหมอชิต2 ถูกสุขอนามัย

16.00 น. ดร.สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวในแพลตฟอร์ม "Twitter" ที่ได้ออกมาแชร์ความรู้สึก เมื่อได้เข้าไปใช้บริการสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือหมอชิต 2 ว่า ประเด็นแรกกรณีมีรถจักรยานยนต์รับจ้างและกลุ่มคนเข้าไปหลอกฟันค่าโดยสาร ฉวยประโยชน์เดินตาม และเข้ามารุมบริการในระหว่างรถโดยสาร เดินทางถึงสถานี ขอชี้แจงว่า บริษัทฯ ไม่เคยนิ่งนอนใจและได้หาวิธีในการแก้ไขปัญหา เนื่องจาก บขส. ไม่มีอำนาจหน้าที่ในการจับกุม จึงได้ประสานและขอความร่วมมือไปยังตำรวจในพื้นที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่และตรวจจับรถจักรยานยนต์รับจ้างผิดกฏหมายได้ 7 ราย ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลต่างๆ ผู้ใช้บริการสามารถเลือกใช้บริการของรถโดยสาร ขสมก. หรือรถแท็กซึ่ ที่มาจอดให้บริการบริเวณชานชาลาขาเข้าได้โดยตรง

ประเด็นที่สอง ห้องน้ำสกปรก มีกลิ่นเหม็น ขอชี้แจงว่า ห้องน้ำที่อยู่ในข่าว ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของ บขส. ซึ่งบริเวณพื้นที่สถานีขนส่งฯ หมอชิต 2 ที่ บขส. กำกับดูแล ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะห้องน้ำภายในอาคารสถานีขนส่งฯ และบริเวณชานชาลาขาเข้า ซึ่งนอกจากจะจัดแม่บ้านคอยดูแลทำความสะอาดให้ถูกสุขอนามัยแล้ว บขส.ยังเปิดให้บริการฟรี ไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการด้วย อย่างไรก็ดี บขส. ขอขอบคุณทุกความเห็นที่เป็นประโยชน์ โดย บขส. จะนำข้อมูลมาพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพด้านบริการ เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้รับความพึงพอใจต่อไป

>> สงกรานต์เมืองกาญจน์ดุ ยกพวกตีกันส่งท้ายสงกรานต์ ชักปืนยิงดับ 1 เจ็บ 1

19.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งเหตุวัยรุ่นถูกยิงขณะเล่นน้ำสงกรานต์ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณหลังสุสานทหารสัมพันธมิตร "ป่าช้าอังกฤษ" บนถนนเจ้าขุนเณร ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

ที่เกิดเหตุ พบร่างของ นายรัชชานนท์ อายุ 18 ปี นอนหงายจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนถนน สภาพมีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ขมับขวา 1 แผล ลิ้นปีขวา 1 แผล ด้านหลังไหล่ซ้ายอีก 1 แผล และมีผู้บาดเจ็บอีกคนคือ นายนนทกร อายุ 17 ปี ถูกยิงที่บริเวณหน้าขาหนีบด้านขวากระสุนทะลุก้น เจ้าหน้าที่นำตัวส่ง รพ.พหลพลพยุหเสนา

ส่วนบนพื้นที่ถนนพบลูกกระสุนปืน ขนาด 9 มม. 2 นัด กระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 นัด ปลอกกระสุนขนาด 9 มม. จำนวน 2 ปลอก และปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 อีก 1 ปลอก และพบซองมีดตก 1 อัน  

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายและผู้บาดเจ็บมาเล่นน้ำสงกรานต์กับเพื่อนๆ ที่จุดเกิดเหตุ จากนั้นมีกลุ่มวัยรุ่นคู่อริประมาณ 6-7 คน มากับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ ขับมาจอดแล้วเกิดชกต่อยและขวางปาขวดใส่กัน ก่อนจะมีการชักปืนออกมายิงใส่จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ก่อนจะขับหลบหนีไป 
 
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สอบสวนและติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป  

>> ไฟไหม้เพิงพักไม้ เสียหายวอด 7 ห้อง ซอยปุณณวิถี 48

20.46 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ ไม่มีเลขที่ ซอยปุณณวิถี 48 ถนนสุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นเพิงพักไม้ชั้นเดียว แบ่งเป็นห้อง 7 ห้อง ประกอบกิจการ ที่พักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นภายในเพิงพัก เพลิงลุกไหม้ เสียหายทั้งหมด พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 60 ตารางวา รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ขณะเกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 65 ปี บาดเจ็บลำลักควัน ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล 
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจาก ไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟติดผนัง พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยพระโขนง

>> รถพ่วงชนท้ายรถกระบะ หนุ่มนั่งท้ายกระบะเสียชีวิต

21.00 น. รับแจ้งจาก กูัภัยสว่างกตัญญูจันทบุรี เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง ชนกับรถกระบะ บนถนนสุขุมวิท บริเวณแยกหนองแหวน อ.นายายอาม จ.จันทบุรี

โดยที่เกิดเหตุ พบรถพ่วง ยูดี สีขาว ทะเบียน ระยอง ชนท้ายรถกระบะ อีซูซุ สีแดง ทำให้มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถกระบะ อาสากู้ภัยใช้เครื่องมือตัดถ่างช่วยเหลือ และนำส่ง รพ.นายายอาม และตรวจสอบที่กระบะท้าย พบร่างผู้เสียชีวิตชาย 1 คน รายละเอียดอยู่ระหว่างตรวจสอบ พื้นที่ สภ.นายายอาม

>> รวบแล้ว "น้ำเพชร" อดีตผู้สมัครนางงามเวทีดัง ร่วมขบวนการอุ้มรีดค่าไถ่คนจีน

21.41 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ชุดคลี่คลายคดีได้รวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอออกหมายจับผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 4 คน ประกอบด้วย 1. น.ส.เพชรลดา หรือ น้ำเพชร อายุ 24 ปี 2. นายศุภพล อายุ 24 ปี แฟนหนุ่มชาวไทย 3. น.ส.สริตา อายุ 28 ปี เจ้าของบัญชีที่รับโอนเงินจำนวน 1.03 ล้านบาท และ 4. นายโจ (ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุราว 35-40 ปี ซึ่งปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด ขณะร่วมกันกับ นายณัฐภัทร ขึ้นไปอุ้มตัวผู้เสียหายจากบนห้องพัก ก่อนติดตามตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย มาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเร่งด่วนต่อไป

ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำกำลังเข้าตรวจสอบห้องพักในพื้นที่ สน.ทองหล่อ จับกุมตัว น.ส.เพชรลดา หรือน้ำเพชร อายุ 24 ปี อดีตผู้สมัครนางงามเวทีใหญ่เวทีหนึ่ง และ นายศุภพล อายุ 24 ปี แฟนหนุ่มชาวไทย พร้อมของกลางรถเก๋ง ยี่ห้อ BMW ไม่ทราบรุ่น 1 คัน หลังสืบทราบว่า ทั้งคู่กบดานอยู่ในละแวกห้องพักที่ใช้เป็นจุดซ่อนตัว

จากการสอบสวนทั้ง 2 ราย ยอมรับเป็นผู้ร่วมขบวนการอุ้มรีด นายหวัง ผู้เสียหาย โดย น.ส.เพชรลดา ให้ข้อมูลว่า ตลอดระยะเวลาที่คบหากับ นายหวัง จะได้เงินเลี้ยงดูเดือนละ 100,000 บาท ส่วน นายศุภพล ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง แต่ชอบเล่นการพนัน เบื้องต้นเงินอีกราว 1.6 ล้านบาท ทั้งคู่อ้างว่า กดออกมาใช้จ่าย และแบ่งปันให้ทีมงานทุกคนไปหมดแล้ว

ล่าสุดยังเหลือ น.ส.สริตา อายุ 28 ปี เจ้าของบัญชีที่รับโอนเงินจำนวน 1.03 ล้านบาท และ นายโจ (ยังไม่ทราบชื่อและนามสกุล) อายุราว 35-40 ปี ซึ่งปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิด ซึ่งชุดคลี่คลายคดีจะติดตามตัวมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนต่อไป

>> สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วันที่ 18 เมษายน 2566 เวลา 05.00 น.

ยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั่วโลกจำนวน 685,703,837 ราย รักษาอาการดีขึ้น 658,438,972 ราย เเละเสียชีวิตสะสม 6,842,687 ราย

1. ประเทศ สหรัฐอเมริกา ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 106,465,921 ราย เสียชีวิต 1,158,160 คน (เพิ่มขึ้น 2 คน) 
2. ประเทศ อินเดีย ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 44,827,226 ราย เสียชีวิต 531,141 คน (เพิ่มขึ้น 27 คน) 
3. ประเทศ ฝรั่งเศส ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 39,903,419 ราย เสียชีวิต 166,024 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด) 
4. ประเทศ เยอรมนี ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 38,382,386 ราย เสียชีวิต 171,992 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด) 
5. ประเทศ บราซิล ยอดผู้ติดเชื้อสะสม 37,358,092 เสียชีวิต 700,811 คน (ยังไม่อัปเดตล่าสุด)