วันที่ 17 เมษายน 2566 เวลา 15:05 น.
ตำรวจสืบสวนนครบาล ตามรวบ 2 คนร้าย แก๊งอุ้มคนจีน รีดค่าไถ่กว่า 4 ล้านบาท เปิดกล้องวงจรปิดพบ จับเหยื่อยัดใส่กล่อง ออกจากที่พัก พบแฟนสาวชาวไทยวางแผนร่วมกับชายชู้ ส่วนผู้เสียหายชาวจีนได้รับการช่วยเหลือแล้ว
วันที่ 17 เมษายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ว่า เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2566 นายยู (Mr. YU) นักท่องเที่ยวชาวจีน เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ลุมพินี ว่าไม่สามารถติดต่อกับนายหวัง (Mr. WANG) เพื่อนร่วมชาติได้ กระทั่งวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา นายหวังได้ติดต่อผ่านวิดีโอคอล กำชับไม่ให้ไปแจ้งความ เดี๋ยวคนร้ายจะปล่อยตัว ถ้าโอนเงินมา แต่นายยู เห็นสภาพเพื่อนที่ใบหน้ามีรอยช้ำ กลัวว่าเพื่อนจะถูกฆ่าทิ้ง จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ
คณะทำงานสอบสวนสืบสวนชุดคลี่คลายคดี นำโดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้เร่งรัดติดตามคดีอย่างใกล้ชิด จากแนวทางการสืบสวนพบว่านายหวัง ผู้เสียหาย มีแฟนเป็นหญิงสาวชาวไทย ซึ่งคบหากันนานกว่า 1 ปี และได้เลิกลากันไป 3 เดือน ก่อนที่จะกลับมาคบกันอีกครั้ง
โดยแฟนสาวทราบว่านายหวังมีเงินและมีทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก จึงได้วางแผนกับชายชู้ ชาวไทย ใช้รถยนต์หรูที่นายหวัง ซื้อให้แฟนสาว ขับเข้ามาในคอนโดมิเนียม ลงมือก่อเหตุในวันที่ 14 เมษายน 2566 เวลาประมาณ 19.00 น. โดยกลุ่มชาวไทยผู้ก่อเหตุ 4 คน คือ แฟนสาวของนายหวัง และชายไทย 3 คน ได้เดินทางมาที่คอนโดมิเนียมของนายหวัง ย่านสาทร ใช้คีย์การ์ดที่มีเปิดประตูห้อง เข้าไปล็อกตัวนายหวังจับมัดมือ มัดเท้า ขังไว้ในห้อง
จากนั้นผู้ก่อเหตุใช้โทรศัพท์ของนายหวังโทรคุยกับ รปภ. เพื่อยืมรถเข็นในการขนของ แล้วออกไปซื้อลังพลาสติกขนาดใหญ่ นำตัวนายหวังยัดใส่กล่องพลาสติก ขนขึ้นรถขับออกไปจากคอนโดฯ นำตัวไปกักขังที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และได้ข่มขู่ ทำร้ายร่างกายนายหวัง ก่อนที่จะให้วิดีโอคอลไปหาเพื่อน คือ นายยู กำชับไม่ให้แจ้งความและให้โอนเงินครั้งแรก 2 ล้านบาท ต่อมาครั้งที่สอง โอนเพิ่มอีก 1.5 ล้านบาท รวมเป็น 3.5 ล้านบ้าน และยังมีบัญชีอื่นที่อยู่ระหว่างตรวจสอบ
เมื่อผู้ก่อเหตุได้เงินตามที่ต้องการแล้ว ทำทีจะนำนายหวังมาปล่อยตัวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตำรวจได้ติดตามกระทั่งพบตัวจึงได้ทำการเข้าช่วยเหลือและเข้าจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวไทย 1 คน และออกหมายจับผู้ก่อเหตุรวม 4 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามตัวอีก 3 คน
ขณะที่ นายหวัง ผู้เสียหายรายนี้นั้น เบื้องต้นได้รับการช่วยเหลือจนปลอดภัยแล้ว และจากการประสานข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พบว่า นายหวัง เองก็ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง มูลค่า 12 ล้านหยวน หรือราว 60 ล้านบาทไทย ซึ่งทางการจีนได้ออกหมายจับไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นหมายแดงในอินเตอร์โพล ทำให้เดินทางเข้าประเทศได้ โดยที่ไม่มีประวัติหมายจับดังกล่าว ซึ่งขณะนี้ได้กักตัวไว้ที่ ตม. เตรียมผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
ขอบคุณภาพจาก : เพจ สืบนครบาล IDMB