หน้าแรก > สังคม

"รพ.ศิริราช" แถลงคืนเงินบริจาค 3 ล้าน ชูวิทย์ ชี้มีที่มาไม่ถูกกฎหมาย

วันที่ 24 มีนาคม. 2566 เวลา 11:06 น.


กรณี "ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด" ออกมาแฉว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง รับเงินจากผู้ทำเว็บพนันออนไลน์ และนักธุรกิจผิดกฎหมาย จำนวนหลายล้านบาท ทั้งที่นายชูวิทย์ เป็นคนแฉเรื่องดังกล่าวเองนั้น ทำให้ นายชูวิทย์ ต้องออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว พร้อมถามกลับทนายตั้มว่า ไปรับงานใครมา พร้อมย้ำ ตนไม่ใช่คนดี แต่ขอประชาชนตัดสินใจเจตนาเอง

เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่โรงพยาบาลศิริราช ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล แถลงข่าวชี้แจงประเด็นนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มอบเงินบริจาคให้คณะแพทยศาสต​ร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ผ่านมานายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ได้นำเงินมาบริจาค จำนวน 3 ล้านบาท เป็นแคชเชียร์เช็ค โดยตั้งใจช่วยงานของภาควิชากายวิภาคศาสตร์ ซึ่งตนเป็นคนรับมอบเอง และมีใบเสร็จรับเงินจากศิริราชมูลนิธิในชื่อของ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ซึ่งหลังการบริจาคแล้วไม่ได้มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัว อย่างไรก็ตาม เป็นที่แน่ชัดว่าเงินดังกล่าวอาจเกี่ยวข้องกับธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ซึ่งนายชูวิทย์ ก็ยืนยันเองว่าเป็นเงินที่มาจากธุรกิจผิดกฎหมาย ดังนั้นคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาลไม่ได้นิ่ง นอนใจและได้มีการติดต่อไปแล้วว่าอยากจะขอคืนเงิน 3 ล้านบาทนี้ให้นายชูวิทย์ โดยเร็วที่สุด

ศ.นพ.อภิชาติ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่ศิริราชมีการเปิดรับเงินบริจาคมา แล้วต้องมีการคืนเงินให้กับผู้บริจาค เพราะที่ผ่านมาบริจาค เราดูที่ตัวเงิน ไม่ดูตัวคน แม้แต่ผู้บริจาคบริจาคเพียงหลักร้อยบาทตนก็มารับด้วยตัวเอง แต่เงินที่เราทราบขณะนี้ ทราบว่าไม่ใช่เงินของนายชูวิทย์ เลยคืน แต่หากเป็นเงินของนายชูวิทย์เอง ก็ยินดีที่จะรับบริจาค และใครก็ได้ที่มาบริจาค ศิริราชรับเงินบริจาคเพื่อเป็นสะพานบุญต่อไป

ซึ่งการรับบริจาคไม่ได้มีกฎเกณฑ์อะไรทั้งสิ้น อยู่ที่ความตั้งใจของผู้บริจาคว่าอยากจะช่วยงานของศิริราชอย่างไร ศิริราชยินดีเป็นสะพานบุญนำเงินบริจาคเหล่านั้นไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ผู้บริจาคระบุว่า เพื่อช่วยคนไข้ด้อยโอกาส เพื่อการศึกษาวิจัย การสร้างตึก ต่างๆ ซึ่งเราจะนำเงินบริจาคนั้นไปใช้เฉพาะกับวัตถุประสงค์ที่ท่านตั้งไว้อย่างตรงไปตรงมา อย่างไรก็ตามจากนี้การบริจาคก็จะทำเหมือนเดิมเพราะเชื่อว่าคนที่มาก็ตั้งใจอยากจะช่วยศิริราช

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จะต้องถูกนำมาเป็นเกณฑ์ในการตรวจสอบที่มาของเงินบริจาคที่มีจำนวนเยอะๆ หรือไม่ ศ.นพ.อภิชาติ   ยืนยันว่า หลักเกณฑ์การรับบริจาคเงินไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่ได้มีการตรวจสอบแหล่งที่มาของเงิน เพราะเราดูที่เจตนาของผู้บริจาค ดูวัตถุประสงค์ที่ต้องการบริจาคเงินมากกว่า ดังนั้นการบริจาคเงินประชาชนผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงินมากหรือน้อยก็ตาม

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม