ญาติเหยื่อหนุ่มคลั่งกราดยิงดับ 3 ศพ เดินทางมารับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ

จากกรณีเหตุสะเทือนขวัญที่ นายอนุวัช แหวนทอง หรือ ปิง อายุ 29 ปี อดีตลูกจ้างชั่วคราวอุทยานแห่งชาติทับลาน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงนายภษิต เอมโอษฐ หรือโอ๊ต อายุ 22 ปี นักศึกษาปี 4 มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี นายณัฐพร กองแก้ว หรือเบล อายุ 22 ปี นักศึกษาปี 4 มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรี ชาว ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร และนายศิรพัฒ วัฒนะ หรือโอ๊ต อายุ 27 ปี ชาวต.โพพระ อ.เมืองเพชรบุรี พนักงานขับรถส่งสินค้า เสียชีวิต 3 ราย และใช้อาวุธปืนยิง ร.ต.ต.กนกศักดิ์ มุทธากาญจน์ นายก อบต.ต้นมะม่วง ร.ต.ท. สมชาย  แย้มเยื้อน ตำรวจ นปพ.ภ.จว.เพชรบุรี และนายกฤษดา ศรีทา  อายุ 36 ปี ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 22 มีนาคม ที่ภายในหมู่บ้านกรุงเพชร ซอย 4 ต.ต้นมะม่วง อ.เมืองเพชรบุรี กระทั่งได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการวิสามัญเมื่อช่วงเวลา 04.00 น.วันที่ 23 มีนาคม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 23 มีนาคม 2566 ญาติผู้เสียชีวิตได้เดินทางมายังห้องพักศพของโรงพยาบาลพระจอมเกล้าฯ เพื่อมาทำเรื่องขอรับศพผู้เสียชีวิตไปทำพิธีทางศาสนา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า นอกจากญาติของเหยื่อโหดแล้ว นางไปรญาภรณ์ มารดาของ นายอนุวัช แหวนทอง หรือปิง ก็ได้เดินทางมาทำเรื่องขอรับศพลูกชายไปทำพิธีทางศาสนาเช่นกัน ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์และพฤติการณ์ของบุตรชาย แต่นางไปรญาภรณ์ ได้เดินหนีไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ยอมตอมคำถามแต่อย่างใด

นายเอกกร เอมโอษฐ์ บิดานายภษิต เอมโอษฐ หรือโอ๊ต เล่าว่า ก่อนหน้านี้บุตรชายได้มาบอกว่าถูกนายอนุวัชใช้ปืนตบที่ศีรษะและได้พาบุตรชายเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดี แต่มีญาติของนายอนุวัชโทรมาไกล่เกลี่ยขอให้ยอมความและยินยอมจะทำขวัญให้ตนจึงเรียกไป 1 แสนบาท แต่ทางญาติของนายอนุวัช ได้ขอต่อรองแต่ตนไม่ยินยอมและได้มีการขึ้นศาลมาแล้ว 1 ครั้ง และศาลจังหวัดเพชรบุรีได้นัดขึ้นศาลเป็นครั้งที่ 2 ในวันที่ 22 มีนาคม กระทั่งมาถูกนายอนุวัชยิงเสียชีวิตดังกล่าว บุตรชายเป็นคนดี ขยันช่วยงานบ้าน เป็นที่รักของคนในครอบครัว ตนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่สูญเสียบุตรชายไปในครั้งนี้

ด้านนายสุรวิทย์ กองแก้ว บิดาของนายณัฐพร กองแก้ว หรือเบล กล่าวทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายได้มาบอกว่าเพื่อนได้มีเรื่องกับนายอนุวัชและตนเองต้องไปเป็นพยานในศาล จึงเตือนลูกชายให้คอยระมัดระวังตัวกระทั่งมาถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว ตนรู้สึกเสียใจมากที่สูญเสียบุตรชายไป ซึ่งตนจะได้นำศพลูกชายไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิดใน จ.ชุมพร

ด้านนางสิริภัทร วัฒนะ มารดาของนายศิรพัฒ วัฒนะ หรือโอ๊ต เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นคนขยันทำมาหากิน ทุกเช้าลูกชายจะขี่รถจักรยานออกมาส่งสินค้าให้กับลูกค้าและจะกลับเข้าบริษัทในเวลาประมาณ 15.00 น.เป็นประจำทุกวัน กระทั่งวันเกิดเหตุเพื่อนพนักงานเห็นว่าลูกชายยังไม่เข้ามาปิดงานจึงโทรหาแต่ไม่มีใครรับสายกระทั่งมาทราบว่าถูกยิงเสียชีวิตดังกล่าว

เครดิต Phetchaburi News ข่าวออนไลน์ในจังหวัดเพชรบุรี