วันที่ 15 เมษายน 2568 เวลา 00:37
เตือนร้านค้า, ผู้บริโภค ขายหรือทานเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ระวังมีโทษสูงคุกถึง 5 ปี ปรับถึง 5 แสนบาท
(14 เมษายน 2568) นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การเดินทางกลับภูมิลำเนาของประชาชนในช่วงสงกรานต์ มักจะรับประทานอาหารประจำถิ่น โดยอาจจะมีการนำเนื้อสัตว์ป่าหายาก มาทำเป็นอาหารเพื่อเลี้ยงฉลองช่วงเทศกาล ทั้งนี้ การบริโภคอาหารจากเนื้อสัตว์ป่ามีผลทางอ้อมทำให้เกิดการล่าสัตว์ป่ามาขาย เพื่อนำมาประกอบอาหารในร้านค้า ซึ่งจะเป็นการทำให้สัตว์ป่าสงวน และสัตว์ป่าคุ้มครองบางชนิดใกล้สูญพันธุ์ เพราะค่านิยมในการบริโภคอาหารสัตว์ป่าที่ผิด ๆ ซึ่งการกระทำดังกว่า ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ทั้งนี้ การค้าสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าดังกล่าว หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ดังกล่าว มีความผิดตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 หากฝ่าฝืนกระทำต่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครองหรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครอง มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับผู้ที่มีรสนิยมบริโภคอาหารสัตว์ป่า ผู้สั่งอาหารที่มีส่วนประกอบของเนื้อหรือซากสัตว์ป่าคุ้มครองก็มีความผิดตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฐานมีไว้ครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวน สัตว์ป่าคุ้มครอง หรือซากสัตว์ป่าดังกล่าว โดยมิได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ
ทั้งนี้ นิยามของ “ซากสัตว์ป่า” ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 4 “ซากสัตว์ป่า” หมายความว่า ร่างกาย หรือส่วนของร่างของสัตว์ป่าที่ตายแล้ว หรือเนื้อของสัตว์ป่า ไม่ว่าจะได้ปิ้ง ต้ม รม ย่าง ตากแห้ง หมัก ดอง หรือทำอย่างอื่น ฯลฯ และไม่ว่าจะชำแหละ แยกออก หรืออยู่ในร่างของสัตว์ป่านั้น เพราะฉะนั้นการนำไปประกอบอาหาร ถึงแม้จะนำเนื้อ หรือซากสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครองไป ผัด ปิ้ง ต้ม ยำ ย่าง อื่นๆ แล้วก็ตาม ในทางกฎหมายก็ถือว่า เป็นเนื้อ หรือซากสัตว์ป่า
“รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชน ร่วมใจกันรณรงค์ ‘ไม่กินเนื้อสัตว์ป่าผิดกฎหมาย’ เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและความเชื่อผิด ๆ ต่อการบริโภคเนื้อสัตว์ป่า หากพบเห็นการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรสายด่วน 1362 ตลอด 24 ชั่วโมง” นายอนุกูล กล่าว