จากกรณีที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวว่า มีชายรายหนึ่ง อายุ 50 ปี อ้างว่าภรรยาของเขาที่ตั้งครรภ์ 4 เดือน ซึ่งเป็นเสมียนทำงานด้านเอกสาร อยู่ที่ชั้น 4 ของตึกก่อสร้างที่พังถล่มลงมายังติดอยู่ในตึก ก่อนที่จะมีการเปิดโปงผ่านโลกออนไลน์ ในภายหลังว่าเรื่องราวของชายรายนี้ ไม่เป็นความจริง

ล่าสุด วันนี้ 31 มี.ค. 2568 ทีมข่าวของสำนักข่าวอัมรินทร์ ได้พบเจอกับชายรายนี้อีกครั้ง ซึ่งยังคงเดินวนไปวนมา อยู่ในบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุ ทางทีมข่าวจึงได้เข้าไปสอบถามข้อเท็จจริงอีกครั้งว่า สิ่งที่เขาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ โดยชายรายนี้ยังยืนยันว่า “เป็นความจริง ไม่ได้กุเรื่อง” และบอกว่าภรรยาของเขานั้นยังคงติดอยู่ภายใต้ซากอาคารดังกล่าวจริง ซึ่งภรรยาของเขาทำงานอยู่ที่ชั้น 4 เป็นเสมียนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องของหน่วยงานราชการที่เป็นเจ้าของพื้นที่ อีกทั้งยังยืนยันว่า ภรรยาของเขาอายุ 25 ปี ตั้งท้องได้ประมาณ 4 เดือน โดยคบหากันไม่ได้ประมาณ 2-3 ปีจากการพบกันที่สถานบันเทิงแถวพระราม 9 ก่อนหน้านี้ภรรยาของเขาทำงานที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แถวพระราม 9 แล้วตนเองก็เคยทำงานเป็นคนขับเครนในห้างที่เดียวกัน

โดยในวันเกิดเหตุ ได้ติดต่อภรรยาของตนครั้งสุดท้ายก็เมื่อช่วงขณะที่เกิดเหตุ อ้างว่าตอนแรกภรรยาบอกตนว่าให้มากินข้าวด้วยกันแถวจตุจักร แต่ระหว่างนั้นก็เกิดแผ่นดินไหว ภรรยาบอกว่าตึกสั่นแรงมาก จากนั้นประมาณ 20 นาที ก็ได้ยินเสียงดังโครมทางโทรศัพท์และโทรศัพท์ภรรยาก็ตัดหายไป

ตั้งแต่วันนั้น ตนก็เลยมาเกาะติดสถานการณ์ เพื่อหวังว่าเจ้าหน้าที่จะพบเจอภรรยา ทำให้ยังไม่ได้กลับไปที่ห้องย่านลาดพร้าวเลย โทรศัพท์ก็ลืมเอาไว้ที่ห้อง เพื่อหวังว่าจะได้พบเจอภรรยา  ส่วนกรณีที่มีรายงานข่าวว่าตนเรี่ยไร ขอรับบริจาคเงินนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยตนเองได้รับเงินจากนักข่าวสำนักข่าวแห่งหนึ่งจริง ประมาณหนึ่งหมื่นบาท แต่ตนได้ปฏิเสธคืนเงินดังกล่าวไป เพราะเนื่องจากมีคนกล่าวหาว่าตนขโมยเงิน โดยได้คืนเงินต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อย ยืนยันว่าไม่มีการขอรับบริจาคเงินแต่อย่างใด

ส่วนประเด็นที่กล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่ไม่พบชื่อบุคคลที่อ้างว่าเป็นภรรยาของตนเอง ชายรายนี้บอกว่าเป็นเพราะเรื่องการพิสูจน์ทราบชื่อบุคคลนั้นยังคาดเคลื่อน เลยไม่พบชื่อของภรรยาตนเอง ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าจริง ๆ แล้วตนไปเดินอยู่แถวลาดพร้าวนั้น ชายรายนี้กล่าวว่า ก็เนื่องจากแถวนั้นเป็นห้องพักของเขา เพราะทำงานเป็นพนักงานก่อสร้างแถวนั้น

อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ได้มีการดื่มสุราหรือไม่ ตอนแรกชายรายนี้ปฏิเสธว่าไม่ได้ดื่ม แต่ภายหลังก็ยอมรับว่าเมื่อคืนนี้ ได้ดื่มสุราจริง ๆ โดยจากการสังเกตของทีมข่าวพบว่า ที่ตัวของชายรายนี้ ได้กลิ่นสุราออกมาอย่างเห็นได้ชัดและลักษณะการตอบคำถามพูดคุยกับผู้สื่อข่าวนั้นเป็นการพูดแบบวกไปวนมา

ขอบคุณภาพ/ข่าว จากสำนักข่าวอัมรินทร์ https://www.amarintv.com/news/crime/510424