วันนี้(29 มี ค.68)  เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์แผ่นดินไหว ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ และนายพงษ์นรา เย็นยิ่ง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมแถลงข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าการตรวจสอบอาคารในกรุงเทพฯ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวในพื้นที่

นายชัชชาติ กล่าวว่า หน้าที่หลักของวิศวกรคือการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน โดยอาคารที่สร้างเสร็จ 100% นั้นไม่มีการพังทลาย แต่อาจจะพบรอยแตก ซึ่งเราจะดำเนินการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน และส่งทีมวิศวกรไปตรวจสอบ

นายพงษ์นรา กล่าวว่า กรมโยธาธิการและผังเมืองได้จัดตั้งศูนย์รับแจ้งการตรวจสอบอาคารและได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคารในโรงพยาบาล เช่น โรงพยาบาลราชวิถี ซึ่งมีอาคารทศมินทราธิราชที่มีการแตกเห็นเหล็ก จึงได้สั่งปิดอาคารทั้งหลังเพื่อความปลอดภัย

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครได้ร่วมมือกับสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยและสมาคมผู้ตรวจสอบอาคารในการตรวจสอบอาคารที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว พร้อมใช้ระบบ Traffy Fondue เพื่อรวบรวมข้อมูลและระบุความเสียหายของอาคารเบื้องต้น โดยจะมีการตรวจสอบอาคารสาธารณะและอาคารที่แจ้งผ่านระบบดังกล่าวกว่า 700 เคสในวันนี้

ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวต่อว่า การใช้ระบบ Traffy Fondue ช่วยให้เราสามารถเห็นพิกัด GPS และรูปภาพเบื้องต้น ทำให้สามารถประเมินสถานการณ์และเข้าตรวจสอบได้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องลงพื้นที่ในทุกเคส

ในส่วนของบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว กทม. ได้ประสานงานกับวิศวกรอาสาเพื่อให้คำแนะนำและตรวจสอบเบื้องต้น ส่วนอาคารใหญ่ เช่น คอนโดมิเนียมและห้างสรรพสินค้า กรมโยธาธิการฯ ได้เน้นย้ำให้เจ้าของอาคารตรวจสอบตามกฎหมายประจำปี และหากมีปัญหาสามารถขอความช่วยเหลือจากวิศวกรที่ขึ้นทะเบียนกว่า 2,600 ราย

นายวิศณุ ทรัพย์สมพล กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเคสทั้งหมดที่แจ้งเข้ามากว่า 2,000 เคส จะมีการลงพื้นที่ตรวจสอบกว่า 700 เคสในวันนี้ โดยจะประสานงานกลับไปยังผู้แจ้งเพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างรวดเร็ว