หน้าแรก > อาชญากรรม

สกัดรถคอนเทนเนอร์ ซุกยาเสพติด ขนจากภาคเหนือมาภาคกลาง

วันที่ 24 มีนาคม. 2568 เวลา 12:58 น.


กองบัญชาการตำรวจนครบาล หน่วยข่าวกรอง และ ป.ป.ส. ร่วมเปิดแผนปฏิบัติการ สนธิกำลังสกัดกั้นรถเทรลเลอร์ซุกซ่อนยาเสพติดก่อนกระจายสู่พื้นที่ และขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่และรายย่อยทั่วทุกพื้นที่

สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้ทำการสืบสวนขยายผลผู้ต้องหาในคดียาเสพติดที่เคยถูกจับกุม จนสืบทราบมาว่ามีขบวนการขนลำเลียงยาเสพติด มาจากพื้นที่บริเวณชายแดนภาคเหนือโดยใช้รถเทรลเลอร์ซุกซ่อนยาเสพติด จึงได้ทำการสืบสวนและสะกดรอยติดตามพฤติกรรมมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งวันที่ 21 มี.ค. 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งว่า ผู้ต้องหาใช้รถเทรลเลอร์ขนลำเลียงยาเสพติดในตู้คอนเทนเนอร์ จะใช้เส้นทางขนลำเลียงผ่านมายังพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ เพื่อจะนำยาเสพติดเข้าไปกระจายส่งต่อในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้กระจายกำลังเฝ้าสังเกตการณ์

ต่อมาเวลาประมาณ 14.10 น. พบรถเทรลเลอร์บรรทุกพ่วงตู้คอนเทนเนอร์ ติดแผ่นป้ายทะเบียน จ.สมุทรปราการ ที่ได้รับแจ้งผ่านมาบริเวณถนนทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แสดงตัวและเรียกให้รถคันดังกล่าวหยุดเพื่อขอทำการตรวจค้น จากการตรวจค้นพบว่ามีการดัดแปลงช่องลับภายในตู้คอนเทนเนอร์ โดยนำแผ่นเหล็กมากั้นแยกเป็นผนังแยกเป็นห้องอีกชั้นหนึ่ง เพื่อใช้ในการอำพรางและปิดบังเจ้าหน้าที่ขณะขนลำเลียงยาเสพติด ผลการตรวจค้นพบของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 91 กระสอบๆ ละประมาณ 200,000 เม็ด รวมจำนวนยาบ้าประมาณ 18,200,000 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 30 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 750 กิโลกรัม และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) จำนวน 10 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม อยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ของรถเทรลเลอร์คันดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิให้ทราบ จับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่ง บช.ปส. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

โดยผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้ในครั้งมี 2 ราย แจ้งข้อหา “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้าและยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปและร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” โดยพร้อมของกลาง มูลค่ายาเสพติด ประมาณ 996,000,000 บาท เป็นยาบ้า จำนวน 91 กระสอบ ประมาณ 18,200,000 เม็ด ,ยาไอซ์ จำนวน 30 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 750 กิโลกรัม ,เคตามีน จำนวน 10 กระสอบ รวมน้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม ,รถบรรทุกพ่วง 

ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหารายนึง ให้การรับสารภาพว่า เคยขับรถบรรทุกสิบล้อขนส่งสินค้ามาประมาณ 10 ปี และลาออกจากงานมาประมาณ 3 ปี ต่อมาได้รับการว่าจ้างขับรถเทรลเลอร์ให้บรรทุกเครื่องสุขภัณฑ์ไปส่งบริเวณชายแดนทางภาคเหนือ และขับรถพ่วงเทรลเลอร์ที่ดัดแปลงช่องลับเพื่อซุกซ่อนยาเสพติด โดยรับยาเสพติดจากพื้นที่บริเวณชายแดนทางภาคเหนือมาแล้วจำนวน 5 ครั้ง ได้รับค่าจ้างครั้งละ ประมาณ 100,000 -200,000 บาท

ข่าวยอดนิยม