วันที่ 22 มีนาคม. 2568 เวลา 23:21 น.
สืบนครบาล รวบแอดมินกลุ่มลับ เผยแพร่ขายคลิปสื่อลามกอนาจารเด็ก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต (TICAC) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ตรวจสอบพบการโฆษณาชักชวนเข้ากลุ่มลับในแอปพลิเคชันไลน์ โดยใช้ข้อความเชิญชวนให้เข้ากลุ่ม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงติดต่อไปยังผู้ใช้บัญชีไลน์ดังกล่าว เพื่อขอซื้อสื่อลามกอนาจารเด็ก โดยแอดมินให้โอนเงิน จำนวน 100 บาท เมื่อโอนเงินแล้ว แอดมินจะดึงเข้ากลุ่มลับในแอปพลิเคชันไลน์ ชื่อกลุ่ม "อะไหร่มือ 2" โดยภายในกลุ่มพบเป็นสื่อลามกอนาจารเด็ก ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวจำนวนมาก จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นยื่นต่อศาล เพื่อทำการตรวจค้น
ต่อมาวันที่ 21 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 06.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ร่วมกันนำหมายค้นดังกล่าว ทำการตรวจค้นบ้านพักภายใน ซ.คู้บอน 40 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร พบนายพี (นามสมมุติ) แสดงตนเป็นเจ้าของ/ผู้ครอบครองบ้านพักดังกล่าว จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแสดงความประสงค์ในการขอเข้าทำการตรวจค้นบุคคล และสิ่งต้องสงสัยตามหมายค้นดังกล่าว พร้อมทั้งได้แสดงหมายค้นให้นายพี (นามสมมุติ) ทราบและเข้าใจดีแล้ว
ผลการตรวจค้น พบสื่อลามกเด็กจำนวนมาก ภายในโทรศัพท์ และ เครื่องคอมพิวเตอร์ ของนายพี (นามสมมุติ)
สิ่งของที่ทำการตรวจยึด จำนวน 5 รายการ
1.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ซุมซุง a51
2.ชุดคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ
3.จอคอมพิวเตอร์
4.external harddisk
5.สมุดบัญชีธนาคาร(รับเงินค่าเข้ากลุ่ม)
จากการสอบถาม นายพี (นามสมมุติ) ยอมรับว่า ตนเป็นแอดมินกลุ่ม "อะไหร่มือ2" มีสมาชิกจำนวน 292 คน ซึ่งเก็บค่าสมาชิกเข้าคนละ 100 บาท จะหาสมาชิกจากการที่ไปเสนอในกลุ่มต่างๆ และแจ้งว่าเป็นแอดมินกลุ่มคลิปสื่อลามกอนาจารเด็ก หากสนใจเข้ากลุ่ม คิดค่าเข้ากลุ่ม จำนวน 100 บาท และทำมาแล้วเป็นเวลา กว่า 1 ปี
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแจ้งให้นายพริสรณัฏฐ์ฯ ทราบข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน "ครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และเพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก"
ฝากเตือนสายหื่น ตามกฎหมายของไทย ได้บัญญัติไว้ว่า การครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก มาตรา 287/1 กำหนดว่าการครอบครองสื่อลามกอนาจารเด็ก เพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่นเป็นความผิด เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรา 287 จะเห็นได้ว่าการครอบครองซึ่งสิ่งลามกอนาจารโดยทั่วไปนั้นไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด แต่หากเป็นสื่อลามกอนาจารเด็ก เช่นการครอบครองหนังโป๊ที่มีผู้แสดงเป็นเด็ก แม้แต่ครอบครองไว้เฉยๆ ก็มีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากส่งต่อให้ผู้อื่น จะมีโทษหนักกว่าการครอบครอง มีโทษจำคุกถึง 7 ปี ผู้ค้า ไม่ว่าจะแจกจ่าย อวดอ้าง ผลิต ค้า เผยแพร่ มีโทษจำคุกสาม 10 ปี ปรับ 6 หมื่นถึง 2 แสนบาท
17 เมษายน 2568
17 เมษายน 2568
17 เมษายน 2568
17 เมษายน 2568