รวบตัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญ ตามบัญชีดำ ปปส. ลำดับที่ 155 หลังหลบหนีกบดานนานกว่า 5 ปี

กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม. พร้อม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ปคม. ได้ร่วมกันจับกุม นายพัน (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2563 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมีสารบริสุทธิ์ปริมาณเกินกว่ายี่สิบกรัมโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายฯ และสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ

สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ เมื่อประมาณปี 2561 ผู้ต้องหาได้ร่วมกับเพื่อนที่ถูกจับไปแล้วก่อนหน้านี้ ว่าจ้างอดีตทหารเปิดห้องพักเก็บยาเสพติดที่ลำเลียงมาซุกซ่อนไว้ที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เป็นยาบ้า จำนวนประมาณ 50,000 เม็ด, ยาไอซ์ จำนวนประมาณ 525 กรัม และกัญชา จำนวนประมาณ 4 กิโลกรัม ก่อนที่จะกระจายส่งต่อให้ผู้ค้ารายย่อยและผู้เสพในพื้นที่ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาได้นำยาเสพติดมาซ่อนไว้ที่ห้องพักดังกล่าว จึงได้เข้าตรวจยึดยาเสพติดดังกล่าว จนสามารถขยายผลขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับผู้ต้องหา หลังจากนั้นผู้ต้องหาได้หลบหนีการจับกุมมานานหลายปี

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ได้สืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามโครงการประกาศสืบจับผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายสำคัญตามหมายจับ ประจำปี 2568 ลำดับที่ 155 ของสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด และทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมากบดานอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว ได้เห็นชายที่มีตำหนิรูปพรรณตรงกับผู้ต้องหา จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นผู้ต้องหาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการจับกุมตัว พร้อมแจ้งสิทธิและแจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับให้ผู้ต้องหาทราบ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวนและตรวจสอบทรัพย์สิน กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 2 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่ให้การรับว่า รู้จักกับอดีตทหารที่ถูกจับ