วันที่ 14 มีนาคม. 2568 เวลา 11:39 น.
เมื่อเวลา 10.07 น. วันที่ 13 มีนาคม 2568 ขณะที่ ร.ต.อ.เมธี ทัพสุริย์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก ได้มี นายบุญกอง มั่นเมืองปัก หรือน้ำฝน อายุ 28 ปี ปั่นจักรยานพ่วงรถเข็นของเก่า เข้ามาแจ้งความว่า ตนเก็บเงินสดเป็นธนบัตร 1,000 บาท ได้ 1 ปึก ไม่ทราบว่าเป็นเงินของใคร จึงอยากให้ตำรวจช่วยตามหาเจ้าของ โดยเก็บได้อยู่ริมถนนกลางใหญ่-น้ำโสม หน้าบริษัทเมืองไทยแคปปิตอล สาขา ต.กลางใหญ่ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี
ตำรวจได้ทำการนับธนบัตรพบว่าเป็นจำนวน 100,000 บาท จึงลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ก่อนที่จะพานายน้ำฝนไปชี้จุดที่เก็บเงินสดได้ เพื่อถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน และตรวจเช็คกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อหาเบาะแสว่าใครเป็นเจ้าของ
ระหว่างนั้นมีหญิง อายุ 41 ปี ได้ขับรถกระบะมากับครอบครัวที่จุดเกิดเหตุ เพื่อมาตามหาเงินสดที่ทำหล่นหายไว้เช่นกัน จึงเชิญตัวทั้งหมดไปทำการสอบสวน และพิสูจน์ทราบเรื่องราวทั้งหมดที่โรงพัก
เมื่อมาถึงโรงพัก พ.ต.อ.ชัยศักดิ์ บูรณะบัญญัติ ผกก. สภ.กลางใหญ่ ได้เชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาพูดคุยและสอบถามถึงที่มาที่ไปของเหตุการณ์ ซึ่งหญิงดังกล่าว ยืนยันได้ว่าเงินสดจำนวนดังกล่าวมีที่มาที่ไปอย่างไร และทำตกไว้ในลักษณะไหน เมื่อพิสูจน์ได้แน่ชัดแล้ว จนท.จึงมอบเงินทั้งหมดคืนให้
ทั้งนี้ หญิงเจ้าของเงิน ได้กล่าวขอบคุณและชื่นชมนายน้ำฝน ที่เป็นพลเมืองดีเก็บเงินได้แล้วนำมาแจ้งตำรวจ จากนั้นได้มอบสินน้ำใจให้นายน้ำฝน 3,000 บาท และนำจักรยานและรถเข็น ขึ้นรถกระบะไปส่งที่บ้าน
หลังจากเจ้าของเงินเห็นสภาพบ้านของนายน้ำฝน พลเมืองดีแล้ว น้องเขาน่าสงสารมาก ต้องเก็บของเก่าขาย เก็บ 10 วัน รวบรวมของเก่าไปขาย ได้เงินมาประมาณ 500-600 บาท ถามชาวบ้านก็บอกน้องเป็นคนดี อยู่กับยาย 2 คน น้องน้ำฝนต้องหาเลี้ยงยายเพียงลำพัง น้องไม่มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด หลังจากนี้จะปรึกษากับครอบครัว จะหาทางช่วยเหลือน้องเพิ่มอีก อยากจะจ้างเขาไปดูแลสวนยาง หรือมาทำงานอยู่ที่ลานรับซื้อยาง คนดีๆ แบบนี้หายาก เป็นการตอบแทนน้อง และส่งเสริมน้องให้มีรายได้เลี้ยงยายในอนาคต