วันที่ 12 มีนาคม. 2568 เวลา 13:38 น.
รพ.รามาธิบดี ออกแถลงการณ์ ฉบับที่ 2 เหตุไฟไหม้ อพยพผู้ป่วย ครบถ้วน 191 ราย ยันไม่พบรังสีรั่วไหล
12 มีนาคม 2568 เพจ "คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี Faculty of Medicine Ramathibodi Hospital" ออกประกาศ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ฉบับที่ 2 ระบุว่า จากกรณีที่มีกลุ่มควันและเพลิงไหม้เกิดขึ้นที่ อาคารหลัก (อาคาร 1) ของโรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 และทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ชี้แจงออกประกาศฉบับที่ 1 ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปแล้วนั้น
ในวันนี้ ทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ทำการอพยพยพย้ายผู้ป่วยไปยังจุดปลอดภัย จำนวน ครบถ้วน 191 ราย โดยเป็นการอพยพย้ายภายในโรงพยาบาล จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการสูดเขม่าควันจำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นบุคลากรที่เข้าไปช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าวได้รับการดูแลอยู่ในหอผู้ป่วยวิกฤต (ICU) และได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด
ผลกระทบดังกล่าว ทำให้คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับผลกระทบในการให้บริการด้านรังสีวิทยาและพยาธิวิทยา ฝั่งอาคารหลัก (อาคาร 1) โดยเบื้องต้น การให้บริการด้านรังสีวิทยาและพยาธิวิทยาบางส่วน ต้องย้ายไปให้บริการที่อาคารสมเด็จพระเทพรัตน์เป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ จากข้อกังวลเรื่องรังสีรั่วไหล ทางทีมวิศวกรรมได้ตรวจสอบแล้วไม่พบการรั่วไหลของรังสี สำหรับด้านการให้บริการทางพยาธิวิทยา ได้แก่ การบริจาคโลหิต ในขณะนี้ทางคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ขอขอบคุณผู้ที่ประสงค์จะบริจาค แต่เนื่องจากหน่วยคลังเลือดมีพื้นที่ในการรับบริจาคโลหิตอย่างจำกัด อาจจะไม่ได้รับความสะดวก
ทั้งนี้ การเปิดให้บริการหน่วยต่าง ๆ ภายในอาคารหลัก (อาคาร 1) ขั้น 1 – 9 ฝั่งใต้ ยังคงปิดให้บริการเพื่อทำการระบายกลิ่น และกลุ่มควัน ออกจากอาคารอย่างต่อเนื่อง ทางคณะแพทยศาสตรโรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล จะดำเนินการลดจำนวนผู้ป่วย การผ่าตัด ผู้ป่วยที่ไม่เร่งด่วนออกไป ภายใน 1-2 วัน โดยหากสามารถดำเนินการได้ปกติจะมีการประกาศต่อไป
ต้องขอขอบคุณความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงบรรเทาสาธารณภัยกำลังจากตำรวจทหารที่เข้ามาช่วยเหลือ รวมทั้งสถานพยาบาลที่อยู่ใกล้เคียงที่พร้อมจะรับผู้ป่วยไปดูแลต่อ และต้องขอบคุณบุคลากรของคณะฯทุกท่านที่ได้เข้ามาช่วยเหลือกัน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความปลอดภัยทุกคน
บุคลากรทุกท่านทำงานอย่างมืออาชีพตามแผนที่ได้ซ้อมไว้ และยังช่วยกันแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า จนสามารถกลับมาดูแลผู้ป่วยได้อย่างต่อเนื่อง