หน้าแรก > สังคม

GISTDA เผย "จุดความร้อน" ไทยขยับสูงขึ้น จังหวัดเลยพบ "จุดความร้อน" มากสุด

วันที่ 16 มีนาคม. 2566 เวลา 13:57 น.


สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) ของวันที่ 15 มีนาคม 2566 ไทยพบ "จุดความร้อน" จำนวน 777 จุด ขณะที่เมียนมายังนำโด่ง 3,231 จุด , สปป.ลาว 2,961 จุด , กัมพูชา 1,238 จุด , เวียดนาม 596 จุด และมาเลเซีย 41 จุด

สำหรับ จุดความร้อนในประเทศไทย ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร 230 จุด , ป่าอนุรักษ์ 195 , ป่าสงวนแห่งชาติ 147 จุด , พื้นที่เขต สปก. 104 จุด , พื้นที่ชุมชนและอื่นๆ 89 จุด และริมทางหลวง 12 จุด ส่วนของจังหวัดที่พบจุดความร้อนมากที่สุดคือ "เลย" จำนวน 63 จุด

ส่วนค่า ฝุ่น PM 2.5 เมื่อตรวจสอบจากแอปพลิเคชั่น "เช็คฝุ่น" เมื่อเวลา 10:00 น.ที่ผ่านมา พบว่าหลายพื้นที่ของประเทศอยู่ในระดับเกินมาตรฐานสลับกับปานกลาง โดยจังหวัดที่พบค่าฝุ่น PM 2.5 มากที่สุดคือ นครพนม , อำนาจเจริญ , บึงกาฬ ซึ่งอยู่ในระดับ 56 ไมโครกรัม ในขณะที่ทุกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) อยู่ในระดับปานกลาง

สิ่งหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังที่มักจะมากับเหตุการณ์ไฟป่าและจุดความร้อนคือ PM 2.5 สถานการณ์การจุดความร้อนจากประเทศเพื่อนบ้านอาจส่งผลให้เกิด PM 2.5 ได้ในพื้นที่บริเวณชายแดนเนื่องจากได้รับอิทธิพจากประแสลมที่จะพัดผ่านเข้ามา ปัญหาไฟป่าหมอกควัน ส่งผลกระทบให้กับระบบต่างๆ ของประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะระบบเศรษฐกิจ ระบบสังคม ดังนั้น ในอนาคตอันใกล้นี้ ประเทศไทยกำลังจะได้ใช้ระบบ THEOS-2 อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่ง 1 ในภารกิจสำคัญของระบบนี้ คือการสำรวจ วิเคราะห์ และติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือคาดว่าจะเกิดขึ้น ได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำ เพื่อการสนับสนุนข้อมูลสำคัญให้กับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้นำข้อมูลไปใช้วางแผน ป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุดมากยิ่งขึ้น

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม