วันที่ 16 มีนาคม. 2566 เวลา 12:09 น.
วันนี้ (16 มี.ค.66 ) เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจความร่วมมือด้านวิชาการ การจัดการศึกษาสำหรับข้าราชการตำรวจ ด้านทรัพยากร การฝึกอบรมและป้องกันอาชญากรรมไซเบอร์ ระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยมี รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นผู้แทนจากมหาวิทยาลัยหอการค้า ร่วมลงนาม
สำนักงานตำรวจแห่งชาติและมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างความร่วมมือระหว่างกันในทางด้านวิชาการ การวิจัย และขยายโอกาสทางการศึกษาให้แก่ข้าราชการตำรวจ เพื่อให้เปิดโอกาสเข้าถึงการศึกษาในสาขาต่างๆ ที่หลากหลาย ทั้งในรูปแบบของหลักสูตรปริญญาบัตร หรือหลักสูตรการฝึกอบรมระยะสั้นต่างๆ อันนำไปสู่การสร้างเครือข่ายทางวิชาการ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การเรียนรู้ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ จึงได้ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาและเป็นหน่วยงานในการกำกับดูแลของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยที่ผ่านมาได้จัดทำหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต ให้กับข้าราชการตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาลจำนวน 2,900 นาย
โดยบันทึกความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างกันในครั้งนี้ จะเป็นการยกระดับความร่วมมือ กระชับความสัมพันธ์ทางด้านวิชาการ ขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับกำลังพลครอบคลุมทุกหน่วยงานในสังกัด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดจนการพัฒนาหลักสูตรวิชาเฉพาะ เพื่อสนับสนุนนโยบายและยุทธศาสตร์ที่สำคัญของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีความร่วมมือระหว่างกัน ดังนี้
1) สนับสนุนทุนการศึกษา (ด้วยการยกเว้นค่าเล่าเรียน) สำหรับข้าราชการตำรวจ เป็นมูลค่า 200,000 บาทต่อคน (จำนวน 500 ถึง 1,000 ทุน ต่อปีการศึกษา) คงเหลือค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 95,000 บาท ตลอด 3 ปี จนจบหลักสูตร
2) จัดรูปแบบการเรียนการสอนที่จัดเป็นห้องเรียนพิเศษเฉพาะตำรวจ เพื่อรองรับการปฏิบัติงานและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน
3) จัดทำหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับนโยบายปฏิบัติงานที่สำคัญ และอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบ ต่อประชาชน คือ หลักสูตรเกี่ยวกับการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ( Cyber Vaccine )
เพื่อสร้างความรู้ให้ผู้เข้าอบรมเป็นครูต้นแบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้สนับสนุนวิทยากร และทางมหาวิทยาลัยเป็นผู้จัดอบรม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรม ทั้งนี้ รุ่นแรกจะมีกลุ่มเป้าหมายคือ ข้าราชการตำรวจ และครูอาจารย์ในภาคีเครือข่าย และในรุ่นต่อๆไป จะพัฒนากลุ่มเป้าหมาย ที่เป็นภาคธุรกิจ เจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ และรวมไปถึงนักเรียน นักศึกษา เพื่อขยายวงความรู้ไปยังประชาชนกลุ่มเป้าหมายให้ทั่วถึงมากที่สุด
ผบ.ตร. กล่าวว่า หลักสูตรของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะช่วยสร้างองค์ความรู้ พัฒนาการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเฉพาะความรู้ด้านกฎหมาย ซึ่งจะปรับหลักสูตรสำหรับตำรวจ ให้รู้และเข้าใจข้อกฎหมายที่ใช้ในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริง เพื่อให้สามารถนำความรู้มาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับสภาพอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะได้จัดทำหลักสูตรเฉพาะทาง ได้แก่ หลักสูตรเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อให้ความรู้การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และข้อกฎหมายที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ โดยมีกลุ่มเป้าหมายผู้เข้าอบรมทั้งตำรวจ อาจารย์ และจะขยายไปถึงผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งนี้ การป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้ดีที่สุด คือการสร้างภูมิคุ้มกันทางความรู้ หรือ Cyber Vaccine ให้กับประชาชน
รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มีความยินดี และพร้อมที่จะให้การส่งเสริมสนับสนุนให้ข้าราชการตำรวจเข้ามาเรียนหลักสูตรต่างๆ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งจะจัดห้องเรียนพิเศษสำหรับกลุ่มตำรวจ เพื่อให้เหมาะสมกับห้วงเวลาและลักษณะของการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ นอกจากนั้นสำหรับค่าเล่าเรียนในส่วนที่เหลือจากกยกเว้นนั้น ก็ยังสามารถชำระเป็นรายเดือนในอัตราเฉลี่ยเดือนละ 2,640 บาท เป็นเวลา 3 ปี และปัจจุบันนอกจากจะมีการเปิดหลักสูตรนิติศาสตร์บัณฑิตแล้ว ทางมหาวิทยาลัยยังจะเปิดหลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต (ปริญญาโท) สาขาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อวิจัย พัฒนา องค์ความรู้ด้านกฎหมายใหม่ๆ และการแก้ไขปัญหาอชาญากรรมไซเบอร์อย่างเป็นระบบ ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน