วันที่ 1 มีนาคม. 2568 เวลา 22:55 น.
รวบเครือข่ายบริษัท E-Money เถื่อน พบเงินหมุนเวียนรวมกันกว่า 1,000 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดย พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม กก.5 บก.ปอศ.
สืบเนื่องจาก ปัจจุบันมีผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ซึ่งมีลักษณะเป็นตัวกลาง ให้ผู้ใช้บริการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ ซึ่งเป็นธุรกิจที่ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงได้ง่าย และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างมาก โดยผู้ใช้บริการต้องสมัครสมาชิกและเปิดบัญชีกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์กับบริษัทฯ บนเว็บไซต์ พร้อมทั้งเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของบริษัทฯ ไว้ล่วงหน้า ทำให้มีเงินจากภาคประชาชนหลั่งไหลเข้าไปในระบธุรกิจดังกล่าว เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากการประกอบธุรกิจดังกล่าวไม่ได้ผ่านการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นการประกอบธุรกิจโดยมิจฉาชีพ มีการนำเงินออกนอกประเทศโดยไม่ผ่านการตรวจสอบ อาจก่อให้เกิดความเสียหายซึ่งกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนได้เป็นวงกว้างเช่นกัน
ดังนั้น ในการประกอบธุรกิจดังกล่าว จึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบและอนุญาตให้ดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยได้กำหนดมาตรการในการตรวจสอบ และควบคุม ภายใต้ พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2560 เพื่อป้องกันความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจและประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.5 บก.ปอศ. จึงได้ดำเนินการตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจแพลตฟอร์มบนเว็บไซต์ในลักษณะดังกล่าว พบบริษัทที่มีพฤติการณ์ในการกระทำความผิดอันเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ระบบการชำระเงิน พ.ศ. 2560 ในรูปแบบการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 5 บริษัท
จากผลการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่าทั้ง 5 บริษัทดังกล่าวข้างต้น มีการประกอบธุรกิจในลักษณะเป็นการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำไปชำระค่าสินค้า ค่าบริการ หรือค่าอื่นใดแทนการชำระด้วยเงินสดจริง มียอดเงินหมุนเวียนรวมกันกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมิได้มีการขออนุญาต ในการประกอบธุรกิจดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้น กรณีนี้จึงเป็นการประกอบธุรกิจการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลเพื่อเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัย จำนวน 4 จุดดังต่อไปนี้
จุดที่ 1 : สำนักงานแห่งใหญ่ บริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางแขม อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม ตามหมายค้นศาลจังหวัดนครปฐม ที่ 93/2568 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
จุดที่ 2 : สถานีขนส่งสินค้า บริษัท ในซอยเพชรเกษม 99 ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน
จ.สมุทรสาคร ตามหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ ค.67/2568 ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
จุดที่ 3 : บ้านหลังหนึ่ง ถนนนวมินทร์ แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสำนักงานแห่งใหญ่ของ 4 บริษัท ตามหมายค้นศาลอาญา ที่ 122/2568 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 3 บริษัท และตามหมายค้นศาลอาญา ที่ 131/2568 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 จำนวน 1 บริษัท
จุดที่ 4 : สถานีขนส่งสินค้า แขวงคลองสามประเวศ เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ตามหมายค้นศาลอาญามีนบุรี ที่ ค.105/2568 ลงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นสถานีขนส่งสินค้าของ 3 บริษัท
ผลการดำเนินการสามารถดำเนินคดีและกล่าวโทษต่อผู้กระทำความผิดได้จำนวน 11 ราย พร้อมทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหลายรายการ จึงได้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป ร่วมกันดำเนินคดีและกล่าวโทษกับกลุ่มผู้ต้องหา
1.นายทัน (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจฯ และในฐานะนิติบุคคล 1 บริษัท
2. นายวัน (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจฯ และในฐานะนิติบุคคล 4 บริษัท
3.นายพัน (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจฯ และในฐานะนิติบุคคล 1 บริษัท
โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันการประกอบธุรกิจการให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง”