วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 16:06 น.
วันนี้ (27 ก.พ. 68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามสด ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งถามโดย นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี กรณีการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาล โดยระบุว่า
1. ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ เป็นปัญหาที่แพร่หลายทุกที่ในประเทศ รวมถึงทั่วโลก นายกฯ ได้เร่งสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการแก้ไขปัญหา พร้อมร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ใช้รัฐบาลกับรัฐบาล เพื่อหาทางออกร่วมกัน
2. ตั้งศูนย์ AOC 1441 บูรณาการการดำเนินงาน รับแจ้งเหตุ ตรวจสอบ ระงับบัญชี ปัจจุบันสามารถระงับบัญชีม้าได้แล้วกว่า 1.92 ล้านบัญชี
3. เพิ่มมาตรการเปิดบัญชีธนาคาร คุมเข้มบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง พร้อมยกร่าง พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพิ่มอำนาจหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดความผิดผู้ที่นำข้อมูลประชาชนไปขาย และกำหนดให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์ สถาบันการเงินร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายด้วย
4. คุมเข้มพื้นที่ชายแดน การค้ามนุษย์ ทำลายแหล่งส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ผิดกฎหมาย ประสานหน่วยงานต่างประเทศเพื่อบูรณาการแก้ปัญหาร่วมกัน ซึ่งมีระบบไตรภาคี ไทย-จีน-เมียนมา
5. คัดกรองผู้ต้องสงสัยที่จับมา พร้อมส่งตัวไปดำเนินการทางกฎหมาย เก็บข้อมูลเพื่อติตตามเฝ้าระวังต่อไป
6. การสั่งตัดไฟ - หยุดส่งน้ำมัน เห็นผลลัพธ์ชัดเจน มีการใช้ไฟ-ก่อสร้างลดลง พร้อมได้รับรายงานว่ากลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติปิดตัว/ลดขนาดลง รวมทั้งพบการลักลอบนำน้ำมันเข้าประเทศ โดยเจ้าหน้าที่ไทยจับกุม 17 ครั้ง รวม 8,000 ลิตร
7. นายกฯ จะลงพื้นที่ สระแก้ว 28 ก.พ. นี้ ติดตามคำสั่งการ อาทิ ลดเสาส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ต ปราบปรามซิมบ็อกซ์ จัดระเบียบผู้ซื้อผู้ให้บริการไลน์เซ่นส์โทรคมนาคม มั่นใจหากได้รับความร่วมมืออย่างบูรณาการ จะทำให้ปัญหาหมดไปแน่นอน
8. ประเด็นผู้มีอิทธิพลเบื้องหลัง นายกฯ ให้คำมั่นกับสภาฯ ว่าจะจัดการเรื่องนี้จริงจัง และขอให้มั่นใจ ไม่ว่าใคร ถ้าทำผิดเรื่องดังกล่าว ทำให้คนไทยเดือดร้อน จะจัดการอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า “ดิฉัน เป็น นายกฯของคนไทย ต้องดูแลคนไทยก่อน นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เรื่อง คอลเซ็นเตอร์และยาเสพติด ไม่จบ ไม่เลิก แน่นอน”
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าในวันพรุ่งนี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ ที่บริเวณด่านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรงข้ามบ้านปอยเปตของประเทศกัมพูชา โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมลงพื้นที่ด้วย
โดยนายกรัฐมนตรีจะประชุมหารือประเด็นการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมออนไลน์ ที่ห้องประชุม ร.12 พัน.3 รอ. กองทัพบก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว พร้อมติดตามความคืบหน้าและเยี่ยมศูนย์คัดแยกเหยื่อขบวนการคอลเซ็นเตอร์ จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยัง ณ ด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านปอยเปต จังหวัด บันทายมีชัยประเทศกัมพูชา เพื่อตรวจการดำเนินงาน หลังจากที่รัฐบาลมีการสั่งการให้ตัดไฟฟ้า รวมทั้งการงดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงไปยัง พื้นที่ชายแดนทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออกของประเทศ
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางต่อไปยังบริเวณด้านหลังตลาดเบญจวรรณ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ติดตามการดำเนินการลดกำลังส่งสัญญาณการสื่อสาร และการดำเนินการตัดสายสัญญาณการสื่อสารบริเวณด้านหลังสถานีรถไฟคลองลึก อรัญประเทศซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่เชื่อมต่อไปยังปอยเปต ประเทศกัมพูชา
“สำหรับการลงพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ของนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ เพื่อหารือติดตามความคืบหน้า ปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ให้สิ้นซาก โดยเน้นย้ำมาตรการ “ไม่จบ ไม่เลิก” พร้อมตรวจดูพื้นที่ตลาดเบญจวรรณและด่านบ้านคลองลึก ภายหลังงดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและการตัดสายสัญญาณการสื่อสาร ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการใช้เป็นเส้นทางผ่านของขบวนการคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ โดยนายกรัฐมนตรีจะรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมากำหนดทิศทางในการสั่งการวางมาตรการในการป้องกันและปราบปรามไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือการหลอกลวงรูปแบบต่างๆทั้งในและจากต่างประเทศกลับมาสู่สังคมไทยอีกต่อไป”