จากกรณีที่มีชาย อายุ 54 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์ไม่สามารถลุกเดินได้ และอยู่ระหว่างตรวจร่างกายป่วยวัณโรค ถูกนำตัวมาทิ้งไว้ ตั้งแต่วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศาลาวัดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี จากนั้นได้มีการประสานเจ้าหน้าที่จาก สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี (พม.จ.นนทบุรี) ลงพื้นที่ช่วยเหลือเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบ นายสุภวัฒน์ หนูพริก พม.จ.นนทบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดูแลและรักษา ชายคนดังกล่าง และสอบถามถึงสาเหตุที่ถูกนำมาทิ้งดังกล่าว

นายสุภวัฒน์ หนูพริก พม.จ.นนทบุรี กล่าวว่า ชายคนดังกล่าว พักอาศัยอาศัยอยู่ห้องเช่าในพื้นที่ตำบลบางศรีเมือง เข้ารับการรักษา ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งด้วยอาการมีเลือดออกในสมองและเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2567 ถูกส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่ง ตามสิทธิ์การรักษา มีอาการกล้ามเนื้อซีกซ้ายอ่อนแรงลุกนั่งบนเตียงได้ช่วยเหลือตัวเองน้อย แพทย์ทำการรักษาจนอาการดีขึ้น ภายหลังการรักษาสำนักงานพัฒนาสังคมได้รับแจ้งจากเทศบาลเมืองบางศรีเมืองให้จัดหาที่อยู่อาศัยให้กับชายคนดังกล่าว เนื่องจากที่พักอาศัยเป็นบ้านเช่าและพักอาศัยอาศัยอยู่เพียงลำพังไม่มีคนดูแล

ต่อมาเมื่อเดือนตุลาคม 2567 สำนักงานพัฒนาสังคมและศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรี ลงพื้นที่ประเมินคนพิการพบว่าชายคนดังกล่าว ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยยังไม่สามารถใช้บล็อกเกอร์เดินได้ ทางโรงพยาบาลจึงได้ฝึกทำกายภาพบำบัด และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 ทาง พม.จ.นนทบุรี ได้นำเสนอทีมสหวิชาชีพจังหวัดนนทบุรี พิจารณาจัดหาที่อยู่อาศัยให้ ซึ่งได้ประสาน กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ เพื่อส่งในชายคนดังกล่าว เข้ารับการคุ้มครองในสถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการ

จากนั้นเดือนธันวาคม 2567 ทางโรงพยาบาลตามสิทธิ์การรักษา ที่ชายคนดังกล่าวรักษาตัวอยู่ ได้ติดตามญาติ พบว่าผู้ป่วยมีน้องสาวพักอาศัยอาศัยอยู่ห้องเช่าในเขตพื้นที่ตำบลบางศรีเมือง และได้ให้หลานซึ่งเป็นลูกของน้องสาวมารับตัวออกจากโรงพยาบาล โดยน้องสาวกลับไปอยู่ด้วยกัน แต่ไปเช่าบ้านให้อยู่ โดยนำบัตรเอทีเอ็ม ของผู้ป่วยไปกดเงินเพื่อนำมาจ่ายค่าเช่าบ้าน เนื่องจากชายคนนี้ได้รับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ซึ่งชายคนดังกล่าวแจ้งว่าหลังจากที่มาส่งน้องสาวไม่ได้มาดูแลเลย ซึ่งคนพิการพักอาศัยอยู่ห้องเช่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 - กุมภาพันธ์ 2568 ภายหลังไม่มีเงินจ่ายค่าห้องเช่าเจ้าของบ้านเช่าได้ล็อคห้อง จนมีพลเมืองดีแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัย ได้นำชายคนดังกล่าวมาอาศัยอยู่ที่วัดแห่งนี้

ซึ่งเมื่อวันที่ 17 ทางเทศบาลเมืองบางศรีเมือง ได้รับแจ้งว่า กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำ ชายคนดังกล่าว มาอาศัยอยู่ที่วัดแห่งนี้ จึงได้ประสานติดต่อศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดนนทบุรีเพื่อเข้ารับการคุ้มครอง และได้นำตัวเข้ารับการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จากผลการเอ็กซเรย์พบว่ามีจุดที่ปอด แพร์วินิจฉัยว่าอาจจะเป็นวัณโรค จึงให้ตรวจเสมหะจำนวนสามวัน ซึ่งผลการตรวจเสมหะที่ได้ตรวจไปแล้วสองวันพบว่าผลเป็นลบ และทางโรงพยาบาล ไม่สามารถแอดมิดได้เนื่องจากไม่ได้เป็นคนไข้เจ็บป่วยฉุกเฉิน ไม่มีอาการเจ็บป่วยรุนแรง จึงนำตัวชายคนดังกล่าว มาอาศัยอยู่ที่วัดระหว่างรอผลตรวจเสมหะ

ภายหลังจากมีภาพข่าวของชายคนดังกล่าว เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 พม.จ.นนทบุรี ได้ประสานเทศบาลเมืองบางศรีเมือง ให้รับตัวผู้ป่วยเข้ารับการตรวจรักษาอีกครั้ง และทราบว่า โรงพยาบาลได้รับแอดมิด จากนั้นวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ผลการตรวจร่างกาย ไม่พบเชื้อวัณโรค ไม่มีโรคติดต่อ เทศบาลเมืองบางศรีเมืองได้ส่งตัวเข้ารับการคุ้มครองที่ศูนย์คุ้มครองคนที่พึ่งจังหวัดนนทบุรีเรียบร้อยแล้ว