วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 05:17 น.
เมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.50 น. (12 ก.พ.68) มีเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ริมถนนเอกชัย ฝั่งขาเข้า ใกล้เคียงซอยศุภาหาร 3 ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ก่อนถึงโรงเรียนศึกษานารีวิทยา
จุดเกิดเหตุพื้นที่รอยต่อระหว่าง กทม. และสมุทรสาคร รถดับเพลิงเร่งเข้าพื้นที่ใช้น้ำ
07.08 น. ทางญาติของบ้านหลังดังกล่าว บอกภายในอาคาร มีอยู่ 2 คน จนท.ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบหรือให้การช่วยเหลือได้เพราะแสงเพลิงยังลุกไหม้รุนแรงอยู่
สภาพการจราจรถนนเอกชัย ขาเข้า ผ่านจุดเกิดเหตุ รถชะลอตัวสลับติดขัด
เวลา 08.05 น. อาคารด้านหน้าติดถนนเอกชัย แสงเพลิงลดลง ด้านหลังยังมีแสงเพลิงและกลุ่มควันอยู่ระหว่างเร่งใช้น้ำ
เวลา 09.04 น. สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเริ่มเดินเข้าสำรวจในอาคาร หาผู้ติดค้าง
เวลา 09.49 น. เบื้องต้นตรวจพบมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ แล้วมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสมุทรสาครบาดเจ็บจำนวน 3 ราย เป็นเพศชาย รายที่ 1 บาดเจ็บสาหัส (ถูกไฟดูด) นำส่งโรงพยาบาลเอกชัย รายที่ 2 และ 3 บาดเจ็บเล็กน้อย นำส่งโรงพยาบาลสมุทรสาคร
เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.ของวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2568 ร.ต.อ.ภูวริษ ปลัดจ่า รองสารวัตรสอบสวนสภ.ย่อยบางน้ำจืด (สภ.เมืองสมุทรสาคร) ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้อาคารพาณิชย์ 6 ชั้น ริมถนนเอกชัย – บางบอน ต.บางน้ำจืด อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งประกอบกิจการขายส่งสื่อบันทึกเสียงและวีดิทัศน์บันทึกข้อมูล รวมถึงอะไหล่อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.บางน้ำจืด และใกล้เคียงทั้งในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และกรุงเทพมหานครรวมกว่า 20 คัน เข้าระดมฉีดน้ำ พร้อมกันนี้ยังมีรถกู้ชีพฉุกเฉินฯ เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ อาสาสมัคร และชุดปฏิบัติการกู้ภัยและช่วยชีวิตจากอาคารถล่ม ร่วมกันเข้าระงับเหตุ ภายใต้การบัญชาการเหตุการณ์ของนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายอนุตร ปางพุฒิพงษ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรสาคร นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ร้อยตรีประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร พ.ต.อ.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ดร.สุบรรณ มานะวิทยาการ นายก อบต.บางน้ำจืด ผู้อำนวยการกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 2 สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้ลงพื้นที่ ณ จุดเกิดเหตุดังกล่าว พร้อมกับติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ โดยใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง จึงจะสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ ซึ่งเพลิงก็ได้สร้างความเสียหายถึง 5 คูหา ทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่เชื่อมทะลุถึงกัน
ทั้งนี้ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังฉีดน้ำอยู่นั้น ก็มีเหตุระทึกสร้างความตื่นตกใจและสร้างความเศร้าสลดให้แก่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เมื่อมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของทางเทศบาลนครสมุทรสาคร ที่อยู่บนกระเช้าซึ่งกำลังเคลื่อนตัวจากคูหาหนึ่งไปอีกคูหาหนึ่ง เพื่อจะฉีดน้ำแรงดันสูงดับไฟอย่างต่อเนื่องนั้น ศีรษะเกิดไปถูกสายไฟฟ้าแรงสูงที่ไม่ได้มีการตัดกระแสไฟ จนทำให้ถูกไฟช๊อต ไฟลุกไหม้ศีรษะ สติดับวูบ ร่างร่วงกองลงกับพื้นของกระเช้าไฟฟ้า ทางเจ้าหน้าที่ได้รีบนำร่างลงมาแล้วทำ CPR ส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชัย เบื้องต้นยังอยู่ในอาการสาหัส นอกจากนี้ยังมีผู้ช่วยที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยซึ่งขึ้นไปด้วยกันอีก 1 คน
หลังเพลิงสงบ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเดินเท้าเข้าตรวจสอบ พบผู้เสียชีวิตอ 2 ราย เสียชีวิตอยู่ในกองเพลิง เป็นเจ้าของร้านฯ ชายอายุ 73 ปี กับ หญิงอายุ 69 ปี โดยเสียชีวิตอยู่ตรงชั้นที่ 3 ภายในห้องครัว 1 ศพ และเสียชีวิตอยู่ตรงบันไดทางขึ้นจากชั้น 4 เพื่อไปดาดฟ้าอีก 1 ศพ ส่วนทางด้านลูกของผู้เสียชีวิตบอกด้วยว่า ปกติพ่อกับแม่จะพักอยู่ที่นี่กัน 2 คน เพื่อดูแลร้านที่เปิดมานานเกือบ 20 ปีแล้ว ตนเองติดต่อพ่อกับแม่ได้ล่าสุดประมาณตี 4 กว่าๆ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย
จากการสอบถามเจ้าของร้าน ซึ่งเป็นผู้เช่าอาคารพาณิชย์อยู่ติดกับที่เกิดเหตุและได้รับความเสียหายบางส่วน บอกว่า ตอนนั้นตนนั่งซ่อมเครื่องยนต์อยู่ด้านล่าง ก็ได้ยินเสียงระเบิด 2 ครั้ง จึงเปิดประตูออกมาดูเห็นกลุ่มควันและกลิ่นลอยออกมาจากตึกต้นเพลิง จึงส่องดูตรงช่องว่างก็เห็นเพลิงลุกมาจากด้านในตัวตึก จึงรีบโทรแจ้งหน่วยงานต่างๆ ให้มาช่วย และยังโทรแจ้งเฮียกับเจ้ที่พักอยู่ข้างในว่าไฟไหม้ให้รีบออกมา จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย
ส่วนทางด้านนายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 5 ห้องจำหน่ายอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ อะไหล่ยนต์มือสอง ทั้งหมด 5 คูหาต่อเนื่องกัน และเบื้องต้นขณะนี้ได้มีการพิสูจน์ทราบจากเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปด้านใน น่าจะมีผู้ติดอยู่ด้านใน และคาดว่าน่าจะเสียชีวิต 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยา เป็นเจ้าของตึก โดยสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว และในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็มีเรื่องของไฟฟ้าที่ช๊อตเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ซึ่งได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้ว ทั้งนี้หลังเกิดเหตุได้มีข้อสั่งการให้ทางนายก อบต.บางน้ำจืด ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ออกคำสั่งเรื่องของอาคาร ให้มีการสั่งห้ามใช้อาคารโดยเด็ดขาด แล้วก็จะประสานเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยในการใช้อาคารอีกทางหนึ่ง แต่ว่าเบื้องต้นในขณะนี้เดี๋ยวทางนายก อบต.บางน้ำจืด จะมีคำสั่งเรื่องการห้ามใช้อาคารโดยเด็ดขาด เพราะหลังเกิดเหตุเพลิงไหม้อาจจะเกิดเหตุอันตรายเกิดขึ้น ในส่วนของการเยียวยาผู้เสียชีวิต ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมาดูแลในเรื่องของการช่วยเหลือเยียวยาผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บต่อไป
ส่วนสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ต้องรอให้เจ้าหน้าที่วิทยาการ กองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบ แต่เนื่องจากตัวอาคารที่ถูกไฟไหม้มีการทรุดตัวในบางส่วน จึงต้องรอการประเมินความเสี่ยงจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญอีกด้วย
เครดิตภาพ ศูนย์วิทยุพระราม 199
ขอบคุณข้อมูลจาก คนข่าวสาคร ฯ