วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 04:08 น.
ปอศ.บุกจับกรรมการบริษัทฯ จำหน่ายรถหรู นำเข้าเลี่ยงภาษี กว่า 160 ล้านบาท
กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดย พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รอง ผบก.ปอศ.รรท.ผบก.ปอศ. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.2 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายพุด (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ของศาลอาญา ลงวันที่ 21 มกราคม 2568 ในความผิดฐาน “หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร” อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร จับกุมได้ บริเวณหน้าห้องพัก อาคารแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 2 ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจากกรมสรรพากร ได้ตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งประกอบกิจการขายรถยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์หรู มีนายพุด (นามสมมุติ) อายุ 48 ปี เป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจ มีพฤติกรรมในการเลี่ยงภาษี โดยการแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ ต่อเจ้าหน้าที่กรมสรรพากร จากการตรวจสอบประวัติการยื่นภาษีของบริษัทฯ ดังกล่าวย้อนหลัง
ช่วงระยะเวลา 4 ปี (พ.ศ.2554 - พ.ศ.2558) พบว่ามีการยื่นรายได้อยู่ที่ประมาณ 400 ล้านบาท เมื่อทำการตรวจสอบบัญชีธนาคารของบริษัทฯ ดังกล่าว กลับพบว่ามีเงินฝากเข้าบัญชี บริษัทฯ กว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีจำนวนสูงกว่ายอดรายได้ที่ยื่น ภ.ง.ด.50 ต่อกรมสรรพากร และบริษัทฯ ไม่สามารถนำส่งเอกสารและชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกิจการหรือที่มาของเงินได้ การกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นการกระทำโดยการแจ้งความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใด เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร เป็นเหตุให้รัฐได้รับความเสียหายไม่สามารถจัดเก็บภาษีได้กว่า 160 ล้านบาท ต่อมากรมสรรพากร จึงได้นำพยานหลักฐานมาร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทฯ ดังกล่าว จนกว่าคดีจะถึงที่สุดตามกฎหมาย
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอศ. ได้ทำการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหานี้ได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่ ห้องพักแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงได้นำกำลังเข้าไปทำการจับกุมตัว ตามหมายจับของศาลอาญา ลงวันที่ 21 มกราคม 2568 ในความผิดฐาน “หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร” อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดี
ตามกฎหมายต่อไป สอบปากคำผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ และอ้างว่า ตนได้มาสมัครงานเป็นพนักงาน ขับรถยนต์และพนักงานขายที่บริษัทฯ ดังกล่าว โดยมีพนักงานฝ่ายบุคคล ได้ให้ตนมอบเอกสารส่วนบุคคลเพื่อใช้ในการสมัครงานให้ โดยไม่ทราบมาก่อนว่าได้มีการนำเอกสารของตนไปเปิดและจดทะเบียนบริษัทฯ มาทราบภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวและได้แจ้งให้ตนทราบ