วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 20:11 น.
จากกรณีก่อนหน้านี้ มีผู้เสียหายในพื้นที่ ตรัง สมุทรปราการ และ อุบลราชธานี ถูกแก๊งคอลเซนเตอ ร์หลอก นับ 10 คน ตำรวจสืบสวนขยายผลจนรู้ว่าเครือข่ายแก๊งคอลเซนเตอร์ มีการกระจายสัญญาณมาจากย่านรามคำแหง จึงนำหมายศาลเข้าตรวจค้นห้องพัก อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง พบเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด หรือ SIM box 15 เครื่อง มีการลักลอบใช้เสาสัญญาณในไทย พร้อมจับกุมผู้ร่วมกระบวนคนไทย 4 ราย
ล่าสุดวันนี้ (2 ก.พ.2568) ตำรวจ บก.สส.ภ.1 นำกำลังเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหาชายต่างชาติ 1 ราย ตามหมายศาลจังหวัดพระประแดง ที่ 18/2565 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน“ พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง , คอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง และ เครื่องบันทึกวงจรปิด 2 เครื่อง ที่คอนโดหรูย่านห้วยขวาง
ภายหลังจากตำรวจได้สืบทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ คือผู้จ้างวานคนไทย ทั้ง 4 คน ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ให้เปิดห้องพักเพื่อนำ SIM box เข้าไปติดตั้งสัญญาณ โดยจะได้เงินค่าจ้างการเปิดห้องครั้งละ 100,000 บาท โดยชาวต่างชาติรายนี้ ให้การอีกว่า รู้จักกับผู้ต้องหา 1 ใน 4 ในเรือนจำ เนื่องจากตัวเองเคยต้องโทษในประเทศไทย จากนั้นเมื่อพ้นโทษออกมาก็ติดต่อกันมาตลอด
สำหรับ ชาวต่างชาติรายนี้ ถือเป็นตัวการใหญ่ของขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เคยทำงานเป็นผู้คุมพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลายสัญชาติที่ประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งไต้หวัน จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม ญี่ปุ่น และ ไทย และมีประวัติคดีฉ้อโกง (บัญชีม้า, call center) และถูกออกหมายจับคดีฉ้อโกงทีไต้หวัน เมื่อช่วงเดือนมกราคม 2568 และเคยถูกดำเนินคดี ร่วมกันฉ้อโกง ปลอมบัตรเครดิต ศาลพิพากษา จำคุก เรือนจำคลองเปรม 10 ปี พ้นโทษมาเมื่อปี 2563
17 เมษายน 2568
17 เมษายน 2568