ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.น.5, พ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี, พ.ต.ท.สุดเขต สิมาธรรม รอง ผกก.สส.สน.ลุมพินี, พ.ต.ท.ภราดร สุวรรณรัตน์, พ.ต.ท.ปกป้อง อุไรพันธุ์ สว.สส.สน.ลุมพินี สั่งการให้ ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี ร่วมกันจับกุมตัว นายเอก อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ 183/2566 ลง 10 มีนาคม 2566 ข้อหา “ชิงทรัพย์, ในเวลากลางคืน, โดยมีอาวุธ, โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” พร้อมของกลางมีดปลายแหลม (ตัวมีดพร้อมด้าม) ยาวประมาณ 18 นิ้ว จำนวน 1 เล่ม เสื้อผ้าที่สวมใส่วันก่อเหตุ พร้อมพาหนะ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อยามาฮ่า สีแดงดำ รุ่น Q BIX จำนวน 1 คัน

พฤติการณ์คือ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 11.00 น. บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้รับมอบอำนาจ ได้มาพบพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี แจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.50 น. ได้มีคนร้ายเป็นชายจำนวน 1 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์สีแดง-ดำ ไม่ทราบเลขทะเบียน เดินเข้ามาภายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาสนามคลี ใช้อาวุธมีดยาวประมาณ 30 ซม. จี้ข่มขู่พนักงานชิงเอาโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ Oppo A17K จำนวน 1 เครื่อง แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี จึงได้ออกสืบสวนหาข่าว ซักถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ตลอดจนตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โครงการ Smart Safety Zone) ประกอบกับกล้องวงจรปิดของกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานเอกชนตามเส้นทางที่คนร้ายใช้หลบหนี ทราบตำหนิรูปพรรณคนร้ายเป็นชายจำนวน 1 คน อายุประมาณ 35-40 ปี รูปร่างท้วม สูงประมาณ 170 ซม. สวมเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงยีนส์ขาสั้นสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีขาว หมวกแก๊ปสีดำ นาฬิกาข้อมือสีดำ แมสก์สีขาว ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นคิวบิกซ์ สีแดง-ดำ จึงได้ออกประชาสัมพันธ์และสืบสวนหาข่าวจนกระทั่งทราบชื่อคนร้ายคือ นายเอก อายุ 38 ปี จึงรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวนขอหมายจับต่อศาลอาญากรุงเทพใต้

ต่อมาฝ่ายสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัวนายเอกฯ พร้อมของกลางอาวุธมีดยาวประมาณ 30 ซม. และชุดที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ได้ที่บ้านซอย ส.ธรณินทร์ 5 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม. จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าตนได้ก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือภายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาสนามคลีจริง โดยหลังจากก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีกลับบ้านพัก นำอาวุธมีดที่ใช้และชุดที่ส่วมใส่ขณะก่อเหตุ ไปซุกซ่อนไว้ภายในห้องพักของตน ส่วนโทรศัพท์มือถือนำไปขายที่ร้านรับซื้อ-ขายโทรศัพท์แห่งหนึ่งย่านห้วยขวาง ในราคา 2,400 บาท จากนั้นนำเงินที่ได้มาเล่นพนันฟุตบอลออนไลน์ จึงทำการตรวจจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากการซักถามขยายผลทราบว่าผู้ต้องหามีอาชีพขับรถ จยย.เป็นไรเดอร์ส่งอาหาร และติดการพนันตรวจสอบประวัติต้องโทษของผู้ต้องหา พบว่าผู้ต้องหาเคยมีประวัติเกี่ยวกับทรัพย์และยาเสพติดมาก่อน