วันที่ 8 มกราคม 2568 เวลา 02:48 น.
โปรแกรมหน้า กรุงเทพกลางแปลง วันที่ 11 - 12 มกราคม 2568 ณ ริมคลองผดุงกรุงเกษม หัวลำโพง
(7 ม.ค.68) เพจเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร ได้โพสต์ข้อความ : คึกคักรับลมหนาว เปิดเทศกาลด้วย 2 หนังพลิกประวัติศาสตร์ “สัปเหร่อ” พลิกหน้าประวัติศาสตร์วงการหนังไทย “ทวิภพ” พลิกหน้าประวัติศาสตร์ไทยพาคนดูย้อนกลับไปสยาม
ผ่านไปแล้วกับ กรุงเทพกลางแปลง ปีที่ 3 สัปดาห์แรก เสาร์ที่ 4 และ อาทิตย์ที่ 5 มกราคม 2568 โดยสัปดาห์แรกของเทศกาลกางจอกันที่กลางใจลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) ด้วยบรรยากาศสุดคึกคัก พร้อมลมหนาวชวนชักให้ผู้คนมาจับจองมองหาทำเล สรวลเสเฮฮาเพื่อนฝูง จูงมือลูกหลานมานั่งตัก จับมือคนรักมานั่งดูหนังกลางแปลง
สำหรับวันเสาร์ที่ 4 มกราคม เปิดศักราชกรุงเทพกลางแปลง ปีที่ 3 อย่างสมศักดิ์ศรีด้วยหนังที่สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการหนังไทยขนาด 9.9 ตามมาตราริกเตอร์ นามว่า “สัปเหร่อ” และนี่คือสถิติเมื่อครั้งหนังเข้าฉายในปี 2566 ที่ทะลวงทุกอย่างที่ขวางหน้า ไม่ว่าจะเป็น หนังไทยที่ทำรายได้ถึง 100 และ 200 ล้านเร็วที่สุดของปี 66 โค่นรายได้ทุกเรื่องของจักรวาลไทบ้าน หนังไทยพูดอีสานที่รายได้แรงที่สุดในรอบ 5 ปี และยังทำรายได้มากที่สุดของปี 66 พร้อมแบกรางวัลจากการเข้าชิงสถาบันต่าง ๆ กลับบ้านอีกเป็นกระบุงยิ่งกว่าโลโก้น้ำปลาตราคนแบกกุ้ง เรียกว่าเป็นหนังที่ถึงพร้อมทั้งเงินและกล่องข่องจริ๊ง! ที่สำคัญ ต้องเต ธิติ ศรีนวล ผู้กำกับ และทีมงานสร้างสัปเหร่อ ยังมาพบเจอแฟน ๆ และร่วมพูดคุยถึงหนังในงานอีกด้วย
ส่วนวันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม มาพร้อมหนังที่เรียกเสียงฮือฮามหาศาลเมื่อครั้งเข้าฉายปี 2547 นามว่า “ทวิภพ” หนังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติ กำกับโดย พี่แกละ สุรพงษ์ พินิจค้า ผู้กำกับสุดคราฟท์แห่งยุค หนังว่าด้วยเรื่องของหญิงสาวยุคปัจจุบันหลงมิติไปบรรจบกับสยามในอดีต ไม่ต่างจากกรุงเทพกลางแปลง ที่นำคนดูยุคปัจจุบันมาบรรจบกับการฉายหนังกลางแปลงสุดคลาสสิกในอดีต พิเศษไปกว่านั้นเวอร์ชันที่นำมาฉายในกรุงเทพกลางแปลงครั้งนี้ยังเป็นเวอร์ชันผู้กำกับหั่นเอง (AKA. Director’s Cut) ที่ไม่ได้ฉายโรง และหาชมไม่ได้ง่าย ๆ จากที่ไหน
และเช่นเคย นอกจากความคึกคักที่คนรักหนังแห่กันมามากมายในสัปดาห์นี้แล้ว กรุงเทพกลางแปลงยังมีเรื่องราวอบอุ่นหัวใจเช่นเคย เมื่อทีมจัดงานเล่าว่า “ได้เจอกับคุณป้า คุณลุง เจ้าประจำที่ตามกรุงเทพกลางแปลงมาตั้งแต่ปีแรก มาเจอกันอีกวันนี้ เห็นนั่งกันเป็นกลุ่มเลย บอกว่า ‘ชวนเพื่อนนั่งรถเมล์มาดู มาจากหนองแขม’ และบอกว่า ‘จะมาดูทุกวันและทุกที่เลย จัดอีกนะ ปีที่แล้วหายไป ป้าเหงาเลย’ สิ่งเหล่านี้แหละที่ทำให้เราหายเหนื่อย”
ความอบอุ่นอีกอย่างท่ามกลางลมหนาวของงานกรุงเทพกลางแปลงสัปดาห์แรก คือเสมือนงานที่รวมคนเบื้องหลังวงการหนังไทยไว้อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง กับการเปิดโซน “ตลาดนัดคนกองถ่าย” ที่คนกองร่วมขนของมาขายกันก่ายกอง รวมถึงร้านอาหารที่มาร่วมขายในงาน ขายหมดเกลี้ยงทุกร้าน ไปจนถึงร้านบริเวณเสาชิงช้า ถนนดินสอ และบริเวณใกล้เคียง ก็ขายหมดก่อนเวลาร้านปิดปกติอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่ กทม. และภาคีเครือข่าย อยากช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนและสร้างความสุขให้ผู้คน
สำหรับเทศกาลกรุงเทพกลางแปลง สัปดาห์ที่สอง วันที่ 11-12 มกราคม 2568 ฉายที่คลองผดุงฯ หัวลำโพง โดยวันที่ 11 ม.ค. ฉายเรื่อง Sea Sparkle และวันที่ 12 ม.ค. RedLife เรดไลฟ์