วันที่ 7 มกราคม 2568 เวลา 04:41 น.
ปทส. ตรวจสอบโรงงานคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์เถื่อน เมืองสมุทรสาคร พบขยะน้ำหนักกว่า 1,200 ตัน มีนายทุนจีนเป็นเจ้าของ
กองบังการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดย พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส. , ผู้ตรวจการกระทรวงอุตสาหกรรม , ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม , กรมโรงงานอุตสาหกรรมและ สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจสอบ บริษัทรีไซเคิลแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ยึดของกลาง ขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมน้ำหนักกว่า 1,232.40 ตัน พร้อมแจ้งข้อหา
1. ตั้งโรงงานจำพวกที่ 3 โดยไม่มีใบอนุญาต เป็นความผิดตามมาตรา 12 วรรคสอง อันมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 50 วรรคหนึ่ง แห่ง พรบ โรงงาน พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่มีใบอนุญาต เป็นความผิดตามมาตรา 23 วรรคหนึ่ง อันมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 73 แห่ง พรบ วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สืบเนื่องมาจากพบข้อมูลการลักลอบขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์จากในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. ทำการตรวจยึดชิ้นส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ และได้มีการแจ้งข้อหาผู้กระทำผิด ต่อมาได้มีการสืบสวนขยายผลข้อมูล พบว่า ขยะอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว ได้ขนมาจาก บริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นบริษัทที่ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ สอจ.ปราจีนบุรี ได้ดำเนินคดีข้อหาตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตและได้เคยอายัดเครื่องจักรและขยะอิเล็กทรอนิกส์ไว้ โดยจากการสืบสวนยังทราบว่า ขยะดังกล่าวจะมีการขนไปที่บริษัทรีไซเคิลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรสาคร
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปทส.จึงได้ลงพื้นที่ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าทำการตรวจสอบบริษัทรีไซเคิลดังกล่าว เมื่อไปถึง พบชิ้นส่วนของอุปกรณ์ไฟฟ้าและแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากวางกองกระจายอยู่เต็มพื้นที่ จากการสอบถามพนักงานทราบว่า เจ้าของเป็นคนจีน ชื่อนายจาง ขณะนี้อยู่ต่างจังหวัด นอกจากนี้ตรวจพบชิ้นส่วนที่มีลักษณะเช่นเดียวกับที่ตรวจยึดได้ ที่ จ.ปราจีนบุรี
โดยเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมได้ตรวจสอบชิ้นส่วนดังกล่าว ซึ่งเข้าข่ายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ และพบว่าโรงงานดังกล่าวมีการประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาตให้ตั้งโรงงานและประกอบกิจการถอดแยกเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และครอบครองวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่มีใบอนุญาต เจ้าหน้าที่ผู้ร่วมตรวจสอบจึงได้แจ้งความ
ร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินคดีกับบริษัทรีไซเคิลดังกล่าวในฐานะนิติบุคคล และนายกาญณะรงค์ฯ กับนายจวง สัญชาติจีน ในฐานะส่วนตัว เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. ได้สืบสวนขยายผลมาจากการจับกุมที่ จ.ปราจีนบุรี โดยกลุ่มคนจีนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกันทั้งที่ จ.ปราจีนบุรี และ จ.สมุทรสาคร โดยใช้โรงงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เป็นแหล่งคัดแยกขยะ และติดตามกลุ่มเครือข่ายผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป