CIB ร่วมกับภาครัฐและเอกชน พัฒนา "เกาะลิบง“ วางระบบบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอในหน้าแล้ง ช่วยชาวบ้านให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ,ชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ร่วมกับภาครัฐ และภาคเอกชน ได้จัดโครงการจิตอาสา พัฒนาเกาะลิบง โดยเป็นการพัฒนาชุมชนและช่วยเหลือโรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ ในการพัฒนาระบบน้ำ ขุดบ่อบาดาล ปรับปรุงถังเก็บน้ำ พร้อมทั้งสร้างหลังคาทางเดินภายในโรงเรียน ติดตั้งไฟโซลาร์เซลล์ส่องสว่างทางเดินภายในบริเวณโรงเรียน และบริเวณเกาะลิบงกว่า 100 ดวง รวมทั้งมอบอุปกรณ์การกีฬา การเรียนและทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียน

ขณะเดียวกันได้มีการบูรณะ ซ่อมแซม ทาสี สนามเด็กเล่นของโรงเรียนบาตูปูเต๊ะ ,เพิ่มเครื่องเล่นใหม่ ให้กับเด็กๆ ในโรงเรียน เพื่อให้ได้เล่นผ่อนคลายจากการเรียนหนังสือ และใช้ในการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ รวมทั้งมีกิจกรรมปรับปรุงห้องละหมาดของโรงเรียนและมีหน่วยแพทย์อาสาเคลื่อนที่ มาตรวจสุขภาพให้กับนักเรียนและชาวบ้าน ขณะที่ชมรมแม่บ้านตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้แจกไอศกรีมตลอดจน เลี้ยงอาหารกลางวันให้กับเด็กๆอีกด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุง จัดระบบบริหารจัดการน้ำภายในโรงเรียน ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมสำคัญ เนื่องจากน้องๆ นักเรียน มักจะมีปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงหน้าแล้ง เพราะเป็นพื้นที่เกาะ ล้อมรอบด้วยทะเล ดังนั้น "น้ำจืด" สำหรับอุปโภคบริโภค จึงเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นปัญหาใหญ่ของนักเรียนและชาวบ้านที่นี่ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จึงเข้ามาช่วยในเรื่องของการขุดบ่อบาดาล รวมไปถึงจัดตั้งเครื่องกรองน้ำ เพื่อให้เด็กนักเรียนมีน้ำดื่มสะอาดตลอดปี

ขณะที่ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า "โครงการจิตอาสา พัฒนาเกาะลิบง"  ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พระบรมราโชบาย ของในหลวงรัชกาลที่ 10 ที่อยากเห็นคนไทย มีความเป็นอยู่ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  และตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) พบว่าที่โรงเรียนบ้านบาตูปูเต๊ะ ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำดื่มน้ำใช้ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากในการดำรงชีวิต ทางเราตำรวจสอบสวนกลาง (CIB)  พร้อมด้วยผู้สนับสนุน จึงอยากจะช่วยแบ่งเบาปัญหา เข้ามาพัฒนาระบบน้ำ ปรับปรุงสนามเด็กเล่น พร้อมทั้งสร้างหลังคาทางเดินระหว่างอาคาร เพื่อกันแดดกันฝนให้กับนักเรียนในช่วงเปลี่ยนคาบเรียน และมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่เรียนดี และนักเรียนที่ลำบาก เพื่อหวังว่า พวกเขาจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

พร้อมทั้งมีการสร้างอาคารอเนกประสงค์ มัสยิดเกาะลิบง เนื่องจากประชากรในเกาะลิบงนั้นส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม จะได้นำอาคารอเนกประสงค์แห่งนี้ไปใช้ในการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหรือกิจกรรมของชุมชน ขณะเดียวกัน มีการปล่อยพันธุ์ปลา และสัตว์น้ำ ที่หอชมดูหยง รวมถึง ทำกิจกรรมดำน้ำเก็บขยะใต้ทะเล ก่อนปิดท้ายด้วยการปลูกป่าชายเลน เพื่อเพิ่มพื้นที่อนุบาลสัตว์น้ำ