วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13:49 น.
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 22 พ.ย.2567 ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธุ์ ผบก.ปปป. เข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญภายหลังการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงคืบหน้าการประชุมคดี ว่า ผลการประชุมในการตามคดีต่าง ๆ เบื้องต้นมีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าน่าจะมีความชัดเจนในหลายเรื่องที่ทำ กรณี ฟิล์ม รัฐภูมิ และ น.ส.กฤษอนงค์ หรือ เจ๊พัช ที่มีการเรียกรับเงินจากบอสดิไอคอน 20 ล้านบาท โดยแอบอ้างชื่อ หนุ่ม กรรชัย เมื่อวันที่ 21 พ.ย. กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้ประชุมถึงเรื่องนี้ และมีความเห็นว่าจะรวมเป็นคดีเดียวทั้งหมด ทั้งคดีที่ หนุ่ม กรรชัย มาร้องทุกข์ในข้อหาหมิ่นประมาท และบอสดิไคอนมาร้องทุกข์ในข้อหาพยายามฉ้อโกง และพยายามกรรโชกทรัพย์ แต่จะเข้าข้อหาใดบ้าง ขอให้ทางพนักงานสอบสวนเข้าไปสอบปากคำ น.ส.ปัญจรัศม์ หรือ บอสปัน ก่อน และค่อยพิจารณากันอีกครั้งว่าจะเข้าข้อหาใด
ในส่วนของคดีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน แต่ในวันนี้เวลา 15.00 น. ทางชุดสืบสวนก็มีการนัดนายเอกภพมาให้ถ้อยคำ แต่ไม่ใช่พนักงานสอบสวนเป็นชุดสืบสวนเป็นคนสอบ เนื่องจากชุดสืบสวนยังต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอยู่
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พยายามที่จะเรียกนายเอกภพมาตั้งแต่วันจันทร์และอังคารที่ผ่านมา แต่ด้านนายเอกภพอ้างว่าติดธุระเดี๋ยวจะมาพร้อมทนาย ซึ่งกรณีนายเอกภพก็จะเข้าข่ายความผิดเรื่องพ.ร.บ.คอม และสำหรับพยานเท็จก็มีการเรียกมาสอบแล้ว แต่ทางบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ไม่ติดใจดำเนินคดี จึงเหลือเพียงแค่นายเอกภพเพียงคนเดียว ทั้งนี้ ทางดิไอคอนก็ได้ยืนยันแล้วว่าพยานดังกล่าวไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับดิไอคอน กรุ๊ป