เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2 บก.สส.บช.น ร่วมกันจับกุม นายขวัญ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดกันทรลักษ์ ที่ จ.131/2567 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชนฯ” จับกุมบริเวณริม ซอยสุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ในคดี ผู้เสียหายแจ้งว่า เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ผู้แจ้งได้นำรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า ไปจำนำกับกลุ่มผู้ต้องหา จำนวน 10,000 บาท โดยได้มีรถยนต์กระบะมารับรถจักรยานยนต์ของผู้แจ้ง ที่หน้าร้านข้าวต้มปลา บ้านจานใหญ่ ต.จานใหญ่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อ้างว่านำไปส่งให้นายขวัญ ต่อมาวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ผู้แจ้งได้ชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยรวมเป็นเงินจำนวน 12,000 บาท เมื่อผู้แจ้งชำระเงินเสร็จ กลุ่มผู้ต้องหาไม่ยอมส่งรถจักรยานยนต์ให้ผู้แจ้ง ทำให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย จึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การว่าไม่รู้เรื่องเกี่ยวคดีที่เกิดขึ้น แต่ตนได้เคยรับจ้างเปิดบัญชี เมื่อปี 2565 จำนวน 2 บัญชี ได้ค่าจ้างบัญชีละ 1,000 บาท จากนั้นจึงนำตัวมาทำบันทึกจับกุม และ ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กันทรลักษ์ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า ปัจจุบันการจำนำรถมีรูปแบบที่หลากหลาย มีผู้ให้บริการหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์รับจำนำ เต็นท์รถ หรือบุคคลธรรมดา ล้วนแล้วแต่เสี่ยงต่อการหลอกลวง การกดราคา การนำรถที่จำนำไปใช้หรือไปจำนำต่อ การขายต่อ ฯลฯ กลายเป็นปัญหาให้กับผู้ที่นำรถไปจำนำมาแล้วมากมาย เพราะฉะนั้นก่อนการตัดสินใจจำนำรถกับใครก็แล้วแต่ ผู้จำนำต้องศึกษาให้ละเอียดว่าผู้ที่เราจะนำรถไปจำนำด้วยนั้นเป็นบุคคลหรือศูนย์ที่เชื่อถือได้หรือไม่ ตรวจสอบได้ไหมและมีประวัติการให้บริการลูกค้าอย่างไร หากตรวจสอบแล้วผ่าน ก็มั่นใจได้ว่ารถของเราจะปลอดภัย ได้เงินเต็มจำนวนและไม่ถูกหลอก