หน้าแรก > สังคม > สุขภาพ

สธ. ย้ำ "ไอกรน" ระบาด รร.ดัง ยังเจอแค่เฉพาะกลุ่ม ไม่ใช่ทั้ง กทม.

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เวลา 12:19 น.


14 พฤศจิกายน 2567 จากกรณีที่ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ประกาศหยุดการเรียนการสอนสองสัปดาห์หลังพบ นักเรียนป่วยโรคไอกรนมากกว่า 2 ราย

แพทย์หญิงจุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และโฆษกกรมควบคุมโรค ชี้แจงว่าทาง กรมควบคุมโรคได้รับแจ้งรายงานในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ สอบสวนโรคในเบื้องต้นทราบว่าพบผู้ป่วยโรคไอกรนจำนวน 20 รายซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักฟุตบอลของโรงเรียนและเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 มี อาการป่วยเริ่มแรกตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ขั้นตอนขณะนี้อยู่ในการเฝ้าระวังกลุ่มผู้สัมภาษณ์เสี่ยงทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน เพื่อติดตามอาการ

ทั้งนี้ การพบผู้ป่วย โรคไอกรน ในเขตกรุงเทพมหานครนั้น ไม่ได้ถือว่าเป็นกลุ่มแรกเพราะเดิมมีข้อมูลรายงานการพบผู้ป่วยด้วยโรคไอกรนมาอย่างต่อเนื่องเป็นระยะแต่ส่วนใหญ่มักพบในเขตภาคใต้ และพบในกลุ่มเด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน แต่ครั้งนี้เป็นการพบกลุ่มผู้ป่วยในช่วงวัยรุ่นและผู้ใหญ่ซึ่งคาดเกิดจากการทำกิจกรรมร่วมกันคือการเล่นกีฬา จึงให้เกิดการแพร่ระบาด

แพทย์หญิงจุไร ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าโรคไอกรนมีวัคซีนป้องกันใช้มากกว่า 50 ปีโดยมีข้อกำหนดให้เด็กเล็กรับวัคซีนที่เป็นวัคซีนรวม ซึ่งจะมีไอกรน /คอตีบ/บาดทะยัก/ จึงทำให้ในปัจจุบันพบการติดเชื้อแต่อาการจะไม่รุนแรงยกเว้นในกลุ่มเด็กเล็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีนหรือกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวร่วมเช่นโรคหอบหืดอาจเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาการป่วยจะรุนแรงและเสียชีวิตได้

ในกลุ่มเด็กโตและวัยผู้ใหญ่มีคำแนะนำให้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ทุก 10 ปี และส่งเสริมให้หญิงตั้งครรภ์รับวัคซีนป้องกันไอกรมเพื่อป้องกันลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึงแรกคลอด ให้มีภูมิคุ้มกันโรค โดยข้อมูลในปัจจุบันภาพรวมของการเข้ารับวัคซีนอยู่ที่ร้อยละ 90 ยกเว้นในเขตภาคใต้ที่ยังเข้ารับวัคซีนน้อยจึงมีการแพร่ระบาดและมีการเสียชีวิตอยู่

สำหรับโรคไอกรน เป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจซึ่งมีลักษณะอาการคล้ายคล้ายไข้หวัดแต่อาการเด่นคือ ผู้ป่วยจะมีอาการไอมากไอหนักนาน 1-2 สัปดาห์ มีระยะในการแพร่เชื้อสามสัปดาห์ หลังไข้ลด โดยในกลุ่มคนที่ไม่ได้มีอาการป่วยรุนแรงจึงไม่มีการตรวจคัดกรองโรคเฉพาะทำให้ไม่ทีข้อมูลรายงาน ส่วนใหญ่เข้าข่ายโรคไข้หวัดไข้ไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล

การตรวจคัดกรองโรคแพทย์จะดำเนินการเฉพาะในกลุ่มที่มีอาการหนักและมีข้อบ่งชี้ เท่านั่น เนื่องจากยังมีค่าใช้จ่ายราคาสูงปัจจุบันยังไม่มีชุดทดสอบเบื้องต้นต้องทำการตรวจสอบเพราะเชื้อในห้องปฏิบัติการเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับมาตรการที่พบมีการแพร่ระบาดของโรคไอกรนในสถานศึกษาครั้งนี้แนะนำให้ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ในสถานศึกษาดังกล่าวตรวจสอบประวัติการรับวัคซีนของบุตรหลานว่าได้รับวัคซีนป้องกันโรคไอกรนครบถ้วนหรือไม่และสังเกตอาการในช่วง 7 ถึง 14 วันหากพบมีอาการไข้และไอให้รีบ พบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และสำหรับสถานศึกษาหรือชุมชนหากพบมีผู้ป่วยเข้าข่ายลักษณะโรคระบบทางเดินหายใจให้แนะนำหยุดเรียนก่อน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

เมื่อถามว่ากรณีพบผู้ป่วยไอกรนมากกว่าสองรายขึ้นไป จำเป็นต้องปิดสถานศึกษาหยุดพักการเรียนการสอนหรือไม่ แพทย์หญิงจุไรกล่าวว่ามาตรการควบคุมการแพร่โรคระบาดนั้นทางกรมควบคุมโรคกำหนด ในกรณีต้องปิดสถานศึกษาหากเจอผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก เนื่องจากกลุ่มโรคนี้มีโอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายอยู่ในสิ่งแวดล้อม แต่ทั้งนี้โรคระบาดอื่นๆรวมถึงโรคไอกรน ส่วนใหญ่การแพร่ระบาดเกิดจากตัวบุคคลผู้ป่วยที่มีการไอหรือจาม มาตรการจึงกำหนดด้านสาธารณสุขไว้ให้ผู้ป่วยหยุดเรียน ส่วนจะ ปิดโรงเรียนหรือปิดห้องเรียนหรือหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับแต่ละสถานศึกษาพิจารณาถึงความพร้อมในการดำเนินการได้เอง

ย้ำว่า กรณีที่พบผู้ป่วยไอกรนในเขตกรุงเทพมหานคร ยังไม่ถือว่าเป็นสถานการณ์การแพร่ระบาดเพราะยังเจอเฉพาะกลุ่ม แต่ขอให้ทุกคนคง ปฏิบัติตนตามมาตรการด้านสุขอนามัย เช่นการสวมหน้ากากอนามัย / มั่นล้างมือ เพื่อลดการรับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม