หน้าแรก > สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 เวลา 05:40 น.


24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567


>> ไฟไหม้ทาวน์เฮาส์ ย่านซอยรัตนาธิเบศร์ 24 เพลิงสงบพบร่างชายวัย 62 ปีเสียชีวิตในกองเพลิง

06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้บ้าน ซอยรัตนาธิเบศร์ 24 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น ชั้นล่างพบร่างของ นายชัยพร อายุ 62 ปี เป็นผู้พิการ แต่ยังสามารถเดินได้ เนื่องจากเคยประสบอุบัติเหตุ ถูกไฟคลอกไหม้เกรียมทั้งตัว ส่วนห้องนอนที่ชั้น 2 พบ น.ส.ธัญญพัทธ์ อายุ 65 ปี อดีตอาจารย์ สำลักควันไฟ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ช่วยเหลือนำตัวลงมาด้านล่างอย่างปลอดภัย ก่อนนำตัวส่ง ร.พ.พระนั่งเกล้า บ้านที่เกิดเหตุอยู่กันแค่ 2 พี่น้องเท่านั้น

นางปลา เพื่อนบ้านอีกคน เล่าว่าช่วงประมาณ ตี 5 ได้ยินเสียงคล้ายระเบิด 1 ครั้ง ก่อนจะมีกลิ่นสายไฟไหม้ ได้ไปเรียกลูกชายให้มาดู และมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากชั้นล่าง ได้ให้ลูกชายฉีดน้ำเพื่อดับ ระหว่างนั้นมีเพื่อนบ้านคนอื่นได้เข้าไปช่วยผู้บาดเจ็บออกมาได้ ส่วนผู้เป็นน้องชายพบเสียชีวิตอยู่ด้านล่าง

โดยหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนนทบุรี และแพทย์ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการชันสูตรเบื้องต้นไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย คาดว่าผู้ตายถูกไฟดูด แล้วหมดสติจนถูกไฟคลอกเสียชีวิต ก่อนนำศพส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ผ่าชันสูตรอย่างละเอียดเพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง


>> รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการเร่งให้ความช่วยเหลือแรงงานโคราช หลังถูกเลิกจ้าง

08.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน และนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครราชสีมา นายอำเภอปากช่อง ผกก.สภ.ปากช่อง สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดนครราชสีมา (สาขาปากช่อง) ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกลูกจ้าง บจก.ฟูไน (ไทยแลนด์) กรณีบริษัทปิดกิจการ ณ บริเวณพื้นที่ตรงข้ามบริษัทฯ

โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครราชสีมา ได้ดำเนินการ ดังนี้ 1) ดำเนินการรับคำร้องลูกจ้าง (คร.7) สอบข้อเท็จจริงผู้แทนลูกจ้าง และผู้แทนบริษัทนายจ้าง ประกอบการวินิจฉัยออกคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชย และเงินอื่นๆตาม พรบ.คุ้มครองแรงงาน 2) ชี้แจงขั้นตอนการขึ้นทะเบียน/รายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงาน การลงทะเบียนสมัครงานผ่านระบบไทยมีงานทำ 3) ชี้แจงสิทธิประโยชน์ประกันสังคมกรณีว่างงาน ถูกเลิกจ้าง 4) จัดทำ Google form รับสมัครฝึกอบรม จำนวน 10 หลักสูตร และสำรวจความต้องการในการฝึกอบรมของลูกจ้าง 5) เตรียมการรองรับในพื้นที่ จัดเตรียมสถานที่ น้ำดื่ม อาหารไว้บริการลูกจ้าง

ทั้งนี้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานได้จัดตั้งกลุ่มไลน์เพื่อตอบปัญหา และให้ลูกจ้างติดตามความคืบหน้าได้โดยสะดวก โดยปัจจุบันมีลูกจ้างมายื่นคำร้องแล้ว จำนวน 734 ราย


>> พบร่างพระภิกษุ มรณภาพปริศนา คากุฏิวัดกลางกรุง ตำรวจเร่งเค้นสอบลูกชายติดยา

10.00 น. พ.ต.ต.จตุพงศ์ อาจหาญ สารวัตรสอบสวน สน.ปทุมวัน ได้รับแจ้งเหตุมีพระเสียชีวิตภายในกุฏิ ชั้น 2 ห้องติดกับบันได ภายในวัดสระบัว แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. 
ที่เกิดเหตุ พบร่างของ พระสุนันท์ อายุ 63 ปี นอนเสียชีวิตโดยมีหลอดดูดน้ำคาอยู่ที่ปาก และพบผ้าขนหนูสีเหลืองพันคอ

จากการสอบถาม พระเจริญ ซึ่งเป็นพระเพื่อนข้างห้อง เล่าว่า พระสุนันท์ นั้นมีลูก 3 คน ซึ่งเป็นลูกสาว 2 คน และมีลูกชายคนสุดท้อง ซึ่งจะมาหาพระองค์ดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง และมีพฤติกรรมติดยาเสพติด โดยเมื่อ 6 วันก่อน ก็ได้ยินเสียงล้มตึง คาดว่าพระองค์ดังกล่าวคงจะล้มและก็ไม่เห็นอีกเลย ผ่านมา 6 วัน กระทั่งได้กลิ่นเหม็นจึงแจ้งเจ้าที่ 191 เผื่อมาตรวจสอบ โดยเมื่อวันก่อนก็ยังเห็นลูกชายของพระองค์ดังกล่าวมานั่งอยู่ภายในห้อง แต่ลูกชายกลับไม่เคยแจ้งว่าพ่อตนเสียชีวิต

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวลูกชายของ พระสุนันท์ และ พระเจริญ เพื่อนข้างห้องไปสอบปากคำที่ สน.ปทุมวัน จากนั้นนำร่าง พระสุนันท์ ส่งนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อชันสูตรต่อไป


>> โรงน้ำแข็งเกิดก๊าซแอมโมเนียรั่วไหล กลางเมืองปัตตานี หามผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลเกือบ 20 ราย

10.00 น. พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่ว ภายในพื้นที่บริษัทผลิตน้ำแข็งหลอด อ.เมือง จ.ปัตตานี ส่งผลให้มีกลิ่นแอมโมเนียกระจายไปทั่วพื้นที่ ที่เกิดเหตุ เป็นภายในอาคารโรงน้ำแข็ง มีก๊าซแอมโมเนียรั่วเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้รถดับเพลิง 3 คัน ฉีดน้ำเพื่อป้องกันกลิ่นสารเคมีไม่ให้ลอยฟุ้งในอากาศ

ขณระงับเหตุ เจ้าหน้าที่ มีอาการ มึนศีรษะ หายใจขัดข้อง แสบตา บางรายถึงกับอาเจียน ต้องประสานกู้ชีพ กู้ภัย ในพื้นที่ อ.เมืองปัตตานี รวมถึงรถโรงพยาบาล จำนวน 10 คัน เข้ามารับ ไปยังโรงพยาบาลปัตตานี ล่าสุดมีเจ้าหน้าที่และพนักงานโรงน้ำแข็ง ได้รับผลกระทบ 18 ราย ทุกคนมีอาการมึนศีรษะ แสบตา หายใจไม่ออก บางรายอาเจียน และจากการสอบถามพนักงานทราบว่า โรงงานดังกล่าวอยู่ระหว่างทำการตรวจสอบโรงงาน ขณะที่พนักงานเข้าไปตรวจสอบบริเวณถังที่กักเก็บก๊าซ ปรากฏว่ามีเหล็กตกลงมาไปทับท่อก๊าซแอมโมเนียแตก ทำให้ก๊าซรั่วออกมา เวลานี้ เจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกีายวข้อง ควบคุมสถานการณ์ ไว้ได้เป็นที่เรียบร้อย


>> ฝากขัง 2 คนสนิท "ทนายตั้ม" ปัดตอบคำถามสื่อ คดีเงิน 39 ล้าน ของ"เจ๊อ้อย"

10.40 น. ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายนุวัฒน์ อายุ 34 ปี คนสนิทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 67 และน.ส.สารินี อายุ 32 ปี แฟนสาวของนุ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 67 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง , พ.ร.บ.คอม และ ร่วมกันฟอกเงิน ในคดีเงินจำนวน 39 ล้านบาทของน.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ฝากขังศาลอาญารัชดา

โดยระหว่างคุมตัวนายนุวัฒน์ ซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวลายทาง กางเกงสีดำ และใส่หน้ากากอนามัยสีดำปกปิดใบหน้า ได้พนมมือไหว้และไม่ได้ตอบคำถามใดๆกับสื่อมวลชน ส่วนทางด้าน น.ส.สารินี ที่สวมใส่เสื้อคลุมลายจุด และสวมใส่หน้ากากอนามัยสีขาว ก็ได้ปิดปากเงียบและไม่ตอบคำถามใดๆเช่นเดียวกัน ก่อนที่ทั้งคู่จะรีบเดินขึ้นรถตู้ของบก.ป. เพื่อเดินทางไปฝากขังที่ศาลฯต่อไป

เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนทำการคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหา เนื่องจากให้เหตุผลว่าหากผู้ต้องหาทั้งสองคนได้รับการประกันตัว เกรงว่าจะมีการเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานทางคดี


>> สธ.เผย "โรคไอกรน" ระบาดในสถานศึกษา โรงเรียนดังสั่งปิด 2 สัปดาห์ ให้เรียนออนไลน์เต็มรูปแบบ

11.12 น. นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน อธิบดีกรมการแพทย์ เผยว่า โรคไอกรนเป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่ระบบทางเดินหายใจ สามารถติดต่อได้ง่ายผ่านการไอ จาม และการหายใจเอาละอองฝอยที่มีเชื้อเข้าไป โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังได้รับวัคซีนไม่ครบหรือภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงพอ มักพบการระบาดในสถานที่ที่มีเด็กอยู่รวมกันจำนวนมาก เช่น โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก

นายแพทย์อัครฐาน จิตนุยานนท์ ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กล่าวเพิ่มเติมว่า อาการของโรคไอกรนในระยะแรกจะคล้ายหวัดธรรมดา มีน้ำมูก ไอเล็กน้อย และมีไข้ต่ำๆ หลังจากนั้น 1-2 สัปดาห์ จะมีอาการไอรุนแรงเป็นชุดๆ จนกระทั่งหายใจเข้าดังวี้ด บางรายอาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย โดยเฉพาะในเด็กทารกอาจมีอาการรุนแรงถึงขั้นเขียว หยุดหายใจ และอาจเสียชีวิตได้ ผู้ปกครองควรสังเกตอาการหากพบว่าเด็กมีอาการไอติดต่อกันนานเกิน 2 สัปดาห์ ไอรุนแรงจนอาเจียน หรือหายใจมีเสียงดังผิดปกติ ควรรีบพาไปพบแพทย์

ขณะที่มีรายงานว่า โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน ได้พบผู้ป่วยโรคไอกรนมากกว่า 2 ราย จึงสั่งปิดสถานศึกษา ระหว่างวันที่ 13-27 พ.ย. ให้ทุกระดับชั้นจัดการเรียนการสอนผ่านออนไลน์เต็มรูปแบบ


>> นายแหลม เข้ามอบตัว หลัง ตร.แจ้งเป็นผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุแทงวิน จยย.ดับ ภรรยาหลั่งน้ำตาเผย "สามีแค่ไปห้ามคนทะเลาะกัน"

12.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานที่ สภ.บางกรวย นางน้ำ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ภรรนา ได้พานายแหลม อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

นางน้ำ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุสามีตนอยู่ในเหตุการณ์พอดีเพราะไปตามหาตนที่หอพักดังกล่าว ตอนเกิดเรื่องสามีตนพยายามเข้าไปห้ามคนตายแล้ว แต่ถูกคนตายต่อยใส่ที่หน้าอกก่อน ทั้งๆที่สามีตนยังไม่ได้ทำอะไรเขาเลย หลังเกิดเหตุสามีตนก็ยังไม่รู้เรื่องเลยว่าตนถูกตำรวจออกหมายจับในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตาย เขากลับมาบ้านแล้วยังออกไปดูงานอยู่เลย จนกระทั่งทราบข่าวจึงเดินทางมามอบตัว ซึ่งสามีตนก็ปฎิเสธข้อหาที่ตำรวจแจ้งมา เพราะสามีตนไม่ได้ร่วมก่อเหตุเพียงแต่เขาไปช่วยห้ามทั้งสองฝ่าย

นางน้ำ กล่าวต่อว่า ภรรยานายแหลม ชูชีพ ผู้ร่วมก่อเหตุซึ่งถูกออกหมายจับกุมตัวในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตาย กล่าวว่า สามีตนทำงานรับจ้างอยู่ที่สิงห์บุรี ทำงานมาก็ไม่ค่อยได้เงิน ตนต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกอีกสองคนด้วยการทำงานรับจ้างทั่วไป มาเจอเรื่องแบบนี้ตนท้อเลย จู่ ๆ ต้องมาเกี่ยวข้องในคดี ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีประวัติมาก่อน แค่เข้าไปช่วยห้ามคนทะเลาะกันเฉย ๆ กลับต้องมาเจอแบบนี้ เป็นใครใครอยากจะเข้าไปช่วยเหลือ ตนได้บอกกับสามีไปแล้วว่า หลังจากนี้ถ้าไปเห็นคนทะเลาะวิวาทกันก็ปล่อยๆให้ตีกันให้ตายไปเลย ไม่ต้องไปยุ่งไปห้ามใครอีก เพราะมีแต่จะทำให้ตัวเองเดือดร้อน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายแหลม เพื่อรอสอบปากคำอย่างละเอียด ก่อนดำเนินคดีตามกฏหมาย


>> บุกค้นบ้าน อ.อ๊อด ตี่ลี่ฮวงจุ้ย ที่เชียงใหม่ พบเก้ง 1ตัว แจ้งเพิ่มข้อหาสัตว์ป่าสงวน

12.57 น. ผู้สื่อข่าวรายงาน ตำรวจสอบสวนกลาง เจ้าหน้าที่ชุดตรวจยึด บก.ปทส. บุกบ้านพัก อ.อ๊อด ตี่ลี่ฮวงจุ้ย ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงประชาชน เข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ในต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พบ นายสอ อายุ 83 ปี คนงานผู้ดูแลบ้านหลังดังกล่าว นำเจ้าหน้าที่ตรวจค้น พบเก้ง เพศผู้ อายุ1ปี จำนวน1ตัว ซึ่งเก้งถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ถูกขังอยู่ในคอกภายในบ้าน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ พบว่าไม่มีสัญลักษณ์หรือใบอนุญาตครอบครองสัตว์ป่าคุ้มครองที่ออกโดยกรมอุทยานฯ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 ฐาน “มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงยึดไปตรวจสอบ

สอบถามนายสอ ให้การว่า เก้งดังกล่าวเป็นของ อ.อ๊อด โดยอยู่ในบ้านตั้งแต่ตนเริ่มเข้ามาทำงานในฐานะลูกจ้าง และก่อนหน้านี้ ยังมีสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ ที่เลี้ยงไว้อีก แต่สัตว์เหล่านั้นได้ถูกนำออกไปแล้ว เนื่องจากมีชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน หลังจากตรวจยึด เจ้าหน้าที่ได้นำเก้งตัวดังกล่าวไปดูแลต่อที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยยางปาน อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทำบันทึกส่งมอบหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป


>> ถังแก๊สระเบิดในบ้าน ย่านสุทธิสาร ไฟลุกไหม้ คร่าชีวิตหญิง 93 ปี

14.00 น. สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยอุดมสุข แยก 5 แขวงและเขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ

ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ที่ชั้น 1 ภายในห้องครัวหลังบ้าน เกิดเพลิงลุกไหม้เสียหายบริเวณเตาแก๊สและถังแก๊ส ขนาด 15 กิโลกรัม ที่บริเวณพื้นครัวพบศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อเวลาต่อมาคือ นางเกษร (สงวนนามสกุล) อายุ 93 ปี เสื้อผ้าถูกเพลิงเผาไหม้ ส่วนสภาพศพมีร่องรอยถูกเพลิงไหม้ทั่วร่าง นอกจากนี้จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบมีอาหารวางอยู่บนเตา ส่วนบริเวณโดยรอบมีความเสียหายจากเพลิงไหม้เล็กน้อย

จากการสอบถามเพื่อนบ้านกล่าวว่า ผู้ตายพักอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวเพียงลำพัง ช่วงเวลาเกิดเหตุได้ยินเสียงระเบิดขึ้นดังสนั่น เมื่อออกมาดูจึงพบกลุ่มควันลอยคลุ้งออกมาจากในบ้านที่เกิดเหตุ จึงโทรแจ้งตำรวจและกู้ภัย ระหว่างนั้นเพื่อนบ้านหลายคนช่วยกันใช้ถังเคมีดับเพลิงเข้าดับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ ก่อนจะช่วยกันปิดหัวแก๊ส และเคลื่อนย้ายถังแก๊สออกมา จากนั้นจึงได้แจ้งให้ญาติของผู้ตายที่อยู่บริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุเข้าตรวจสอบ

เบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้คาดว่าผู้ตายกำลังจะอุ่นอาหาร แต่แก๊สหุงต้มรั่วไหลที่บริเวณสาย หรือหัวแก๊ส และเกิดประกายไฟขึ้นขณะติดเตาแก๊ส จึงทำให้เกิดการระเบิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ สพฐ.อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตำรวจได้ส่งร่างไปยัง รพ.รามาธิบดี เพื่อตรวจสอบสาเหตุของการเสียชีวิตต่อไป


>> คนร้ายซุ่มยิงทหารพราน ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย พื้นที่บันนังสตา

15.00 น. สภ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ดักซุ่มยิง เจ้าหน้าที่ทหารพราน ชุดปฎิบัติการจรยุทธ (ชป.จรยุทธ์ฯ) ของกองร้อยทหารพราน4110 สนับสนุนกองร้อยทหารพราน4108 และมีเจ้าหน้าที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 นาย บริเวณภายในสวนยางพารา ด้านหลังโรงเรียนบ้านบาเจาะ หมู่ที่ 1 บ้านอูแบ ต.บาเจาะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา

จากการสอบถามในเบื้องต้นทราบว่า เจ้าหน้าที่ทหารพราน ชป.จรยุทธ์ฯ ดังกล่าว ออกปฏิบัติหน้าที่ จรยุทธตามแผนยุทธการ จำนวน 14 นาย เมื่อถึงจุดดังกล่าวบริเวณสวนยางพาราหลังโรงเรียนอิสลามบาเจาะวิทยา ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ใช้อาวุธปืน M-16 ดักซุ่มโจมตียิงเข้าใส่กำลังพล เจ้าหน้าที่ทหารพรานฯ จำนวนหลายนัด กระสุนถูกเสื้อเกาะและเฉี่ยวหัวไหล่ของกำลังพล 2 นายแต่ไม่ได้รับเจ็บ ขณะที่ จ.ส.อ.อุเทน อายุ 42 ปี หัวหน้าชุดปฎิบัติการจรยุทธ ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณหัวไหล่ข้างซ้ายได้รับบาดเจ็บ นำส่งไปยังโรงพยาบาลศูนย์ยะลา

จากการตรวจสอบโดยรอบ ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนอาวุธปืนสงคราม M-16 กว่า 20 ปลอก ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้จัดชุดจรยุทธ์ออกติดตามกลุ่มคนร้าย แต่คนร้ายอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นการก่อเหตุร้ายเพื่อสร้างสถานการณ์ของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่เคลื่อนอยู่ในพื้นที่ อ.บันนังสตา และ พื้นที่ใกล้เคียง ที่ต้องการสร้างสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง


>> รักษาการผู้ว่าฯ จ.สุราษฎร์ธานี ยืนยันท่องเที่ยวเกาะพะงันปลอดภัย เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลนักท่องเที่ยว

19.00 น. นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล รอง ผู้ว่าฯ จ.สุราษฎร์ธานี รักษาราชการแทน ผู้ว่าฯ จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังจากได้รับรายงานประเด็น สื่อในประเทศอิสราเอล เผยแพร่ข่าว ที่มีคำเตือนเกี่ยวกับการโจมตี ก่อการร้ายกับชาวอิสราเอล ที่กระจายอยู่ทั่วโลก และในข่าวส่วนหนึ่งได้ระบุถึงประเทศไทยโดยเฉพาะการจัดงานฟูลมูน ปาร์ตี้

โดยกล่าวว่าเรื่องนี้ มีความอ่อนไหว เพราะพื้นที่เกาะพะงันและงานฟูลมูนปาร์ตี้ เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ในแต่ละครั้งมีนักท่องเที่ยวนับหมื่นคน ถึงได้สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงและหน่วยงานด้านข่าวกรองในพื้นที่ ตรวจสอบแหล่งที่มาของข่าว ตลอดจน สืบสวนเชิงลึก ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีรายงานการเคลื่อนไหว ของบุคคลต้องสงสัยในพื้นที่

อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้ฝ่ายความมั่นคง เพิ่มความเข้มงวด การตรวจสอบตรวจค้น วัตถุต้องสงสัย ผู้ที่เดินทางเข้าออกพื้นที่เกาะพะงัน ซึ่ง สามารถเข้าออกได้เฉพาะทางเรือเท่านั้น และเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ในการ ดูแลอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัย เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี


>> รถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต เป็นเด็กชายอายุ 12 ปี

20.20 น. รับแจ้งจาก มูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน ตรวจสอบอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลชนกับรถจักรยานยนต์ มีทั้งผู้บาดเจ็บสาหัสและผู้เสียชีวิต บนถนนหมายเลข 216 เลยแยกหนองใส ประมาณ 50 เมตร ในพื้นที่ อ.เมือง จ.อุดรธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า เอ็นแม็กซ์ สีเทา ป้ายทะเบียน อุดรธานี ลักษณะชนกับรถนั่งส่วนบุคคลไฟฟ้า BYD สีแดง ป้ายทะเบียน อุดรธานี จากการตรวสอบ พบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจสอบเอกสาร เป็นเด็กชาย อายุ 12 ปี และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายมีอาการสาหัส ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ และหน่วยกู้ชีพปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาลอุดรธานี ตรวจสอบเอกสาร ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 รายเป็น เด็กชาย อายุ 12 ปี ในส่วนของสาเหตุอยุ่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี  


>> แผ่นดินไหว ที่ประเทศเมียนมา

01.57 น. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทขา แจ้งเหตุผ่นดินไหว ขนาด 2.1 ความลึก 1 กม. ภายในพื้นที่ของประเทศเมียนมา ศูนย์กลางห่างออกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 90 กม. ยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อประเทศไทย 

 

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม