สืบนครบาล รวบ บัญชีม้ามิจฉาชีพหลอกขายรถจักรยานไฟฟ้าผ่านเฟซบุ๊ก โอนเงินจ่ายไปแต่ไม่ได้รับสินค้า และยังจะให้โอนค่าแบตเตอรี่เพิ่มอีก

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ,พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย, พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.ฯ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.รณฤทธิ์ กิตติมาศ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมด้วย พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.3 บก.สส.บช.น (ชุดปฏิบัติการที่ 3/4 ) ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเอ (นามสมมุติ)
อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 879/2567 ลง 5 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน "ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยทุจริต,  หรือโดยหลอกหลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือผู้เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้เจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยืนยอมให้บุคคลอื่นใช้เลขหมายโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดทางอาญาอื่นใด" จับกุม บริเวณถนนภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงท่าแร้ง เขตบางเขต กทม.

พฤติการณ์สืบเนื่องมาจาก ผู้เสียหายได้ติดต่อซื้อสินค้าประเภทรถจักรยานไฟฟ้า จำนวน 2 คัน โดยการติดต่อผ่านช่องทางแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊ก เป็นเพจ “รถจักรยานไฟฟ้า มือสอง ของถูก” ต่อมาผู้เสียหายโอนเงินให้กลุ่มผู้ต้องหารวม 2,000 บาท ปรากฎว่าไม่ได้รับสินค้าตามที่แจ้ง อีกทั้งกลุ่มผู้ต้องหาได้ติดต่อผู้เสียหายให้โอนเงินค่าแบตเตอรี่รถจักรยานไฟฟ้าอีก แต่ผู้เสียหายรู้ตัว จึงรีบเดินทางไปพบพนักงานสอบสวน สภ.คลองตัน จ.ปทุมธานี เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา

ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่า ตนไม่ได้เป็นคนหลอกลวง แต่มีคนไม่ทราบว่าเป็นผู้ใดทักมาชักชวนในแมสเซนเจอร์ เฟสบุ๊ก ให้เปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ โดยขั้นตอนการเปิดออนไลน์ กลุ่มผู้ต้องหาจะให้ ตนแสกนหน้าเพื่อยืนยัน ตนเอง แล้วก็ให้ตนใส่หมายเลขโทรศัพท์ ของกลุ่มผู้ต้องหา จากนั้นแจ้งเลข OTP ให้ตน สุดท้ายสแกนหน้า แล้วให้ลบแอปธนาคารทิ้ง จากนั้น ก็ไม่สามารถใช้บัญขีได้ ได้รับค่าจ้าง 500 บาท และโดนหลอกอีกว่าจะโอนมาให้อีก 7,000 บาท สุดท้ายก็บล็อคช่องทางการติดต่อไป จากนั้นได้นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป