เอเอฟพี รายงานวันที่ 9 พ.ย. ถึงความคืบหน้าสถานการณ์ไฟป่าใน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา หลังจาก “เมาน์เทนไฟร์” ปะทุใกล้เมืองคามาริลโล นอกนครลอสแองเจลิส เมื่อวันพุธที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา

และเพราะมีลมกระโชกแรงที่ความเร็วสูงสุด 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่งผลให้ไฟป่าลุกลามอย่างรวดเร็ว เผาวอดพื้นที่ไปแล้วกว่า 20,000 เอเคอร์ หรือราว 50,600 ไร่ อาคารบ้านเรือนอย่างน้อย 132 หลังถูกไฟเผาวอด และอีก 88 หลังได้รับความเสียหาย

ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาท้องถิ่นระบุว่าความเร็วลมลดลงเมื่อวันศุกร์ที่ 8 พ.ย. และคาดว่าจะสงบนิ่งต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันข้างหน้า ถือเป็นข่าวดีสำหรับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงซึ่งยังระดมกำลังเร่งดับไฟ

นายดัสติน การ์ดเนอร์ หัวหน้าหน่วยดับเพลิงเขตเวนทูรา เปิดเผยว่าสามารถควบคุมไฟป่าได้เพียงร้อยละ 7 เท่านั้น และประชาชนกว่า 30,000 คนในพื้นที่ใกล้เคียงยังเสี่ยงได้รับอันตรายจากไฟป่า