หน้าแรก > ต่างประเทศ

"ทรัมป์" ประกาศชัยชนะ หลัง Fox News คาดการณ์ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15:35 น.


วันที่ 6 พฤศจิกายน 2567 รอยเตอร์ รายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้แทนจากพรรครีพับลิกัน อ้างว่าตนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2024 เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 47 ด้วยคะแนน 277 ต่อ 226 หลังจากที่ Fox News คาดการณ์ว่าเขาสามารถเอาชนะ นางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตได้ ซึ่งนับเป็นการกลับมาทางการเมืองที่น่าตื่นตาตื่นใจหลังจากที่เขาออกจากทำเนียบขาวไป 4 ปี

ส่วนรัฐสวิงสเตทอีก 6 รัฐ ทรัมป์ก็มีคะแนนนำและคาดว่าจะชนะด้วย ขณะที่การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา พรรครีพับลิกันคว้าชัยชนะและสามารถครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาสหรัฐเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หลังจากผลการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐบ่งชี้ว่า พรรครีพับลิกันสามารถครองเสียงข้างมากที่ 51 เสียงได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่พรรคเดโมแครตได้ไป 41 เสียง และยังเหลือที่นั่งที่ยังไมได้ประกาศผลอีก 8 ที่นั่ง

ขณะที่ สำนักข่าวอื่นๆ ยังไม่ได้ประกาศการแข่งขันของทรัมป์ แต่เขาปรากฏตัวเกือบจะชนะแล้ว หลังจากยึดครองรัฐที่เป็นสมรภูมิรบได้แก่ เพนซิลเวเนีย นอร์ทแคโรไลนา และจอร์เจีย และครองตำแหน่งผู้นำในอีก 4 รัฐที่เหลือ ตามข้อมูลของ Edison Research
ซึ่ง นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามองชัยชนะของทรัมป์ในช่วงค่ำ ส่งผลให้หุ้นฟิวเจอร์สของสหรัฐและดอลลาร์พุ่งสูงขึ้น

ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลพุ่งสูงขึ้นและบิตคอยน์พุ่งสูงขึ้น ซึ่งนักวิเคราะห์และนักลงทุนมองว่าการซื้อขายเหล่านี้สนับสนุนชัยชนะของทรัมป์ แต่ไม่ว่าใครจะชนะการเลือกตั้ง ประวัติศาสตร์ก็กำลังถูกสร้างอยู่ ทรัมป์ วัย 78 ปี เป็นประธานาธิบดีเพียงคนเดียวที่ถูกฟ้องถอดถอนถึงสองครั้ง และเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกลายเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ได้รับชัยชนะไม่ติดต่อกันในรอบกว่าศตวรรษ ต่อจากโกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในปี 1892 และจะเป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดที่เคยได้รับการเลือกตั้ง

กลับกันหาก แฮร์ริส วัย 60 ปี ซึ่งเป็นรองประธานาธิบดีหญิงคนแรก ได้รับเลือก จะกลายเป็นผู้หญิงผิวสีและชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกที่ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี ขณะที่ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎรยังคงต้องลุ้นกันต่อไป เนื่องจากจนถึงขณะนี้ที่มีการนับอยู่ พรรครีพับลิกันได้ไป 183 ที่นั่ง ส่วนเดโมแครตได้ไป 155 ที่นั่ง และยังมีที่นั่งที่ยังไม่ได้ประกาศผลอีก 97 ที่นั่ง

ที่มา : https://www.reuters.com/world/us/trump-vs-harris-us-voters-head-polls-turbulent-campaign-concludes-2024-11-05/?fbclid=IwY2xjawGYChhleHRuA2FlbQIxMAABHdamtlO0mYNmPA1AIt2V-NfNWyev8A76j-4BPyoUHoDbZuqV22RFwDKvHA_aem_oTQUoF8KSkpVkfYhgjSuWg

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม