หน้าแรก > อาชญากรรม

"ออยศรี" ให้ข้อมูลตำรวจในฐานะพยาน เชื่อ "เจ๊อ้อย" ไม่ได้ให้เงินทนายตั้มด้วยความเสน่หา

วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19:16 น.


เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.บุญยนุช แสงศรี หรือ แอดมินเพจ “ออยศรีและผองเผือก“ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม (กก.3 บก.ป.) เพื่อให้ปากคำคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม

น.ส.บุญยนุช เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาตามคำเชิญของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่มีการติดต่อประสานหาตนให้เข้ามาให้ปากคำเกี่ยวกับคดีของทนายตั้ม แต่ส่วนจะเป็นการให้ปากคำในประเด็นใดนั้นตนก็ไม่สามารถตอบได้ แต่ส่วนตัวเชื่อว่าตำรวจอาจจะอยากให้ตนแนะนำบุคคลที่มีความใกล้ชิดหรือรู้ข้อมูลของทนายตั้ม เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกตัวมาเป็นพยานหรือมาสอบปากคำ ที่ผ่านมาตนวิพากษ์วิจารณ์ทนายตั้มในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ได้มีอคติใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่วิพากษ์วิจารณ์ไปตามข้อเท็จจริง โดยส่วนตัวมีคนติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนพอสมควร แต่ไม่ทราบว่าบุคคลเหล่านั้นจะเข้ามาดำเนินการแจ้งความกับทนายตั้มด้วยหรือไม่

น.ส.บุญยนุช กล่าวว่า สำหรับเรื่องเงิน 71 ล้านบาท ที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นเงินที่ให้ทนายตั้มได้โดยเสน่หานั้น มองว่าการให้เงินโดยเสน่หา จะต้องไม่มีข้อแม้และไม่มีเงื่อนไข เมื่อมีเงื่อนไขหรือมีข้อแม้นั่นหมายความว่าไม่ใช่การให้โดยเสน่หาแล้ว

น.ส.บุญยนุช กล่าวว่า โดยตัวทนายตั้มเองมีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “เหตุใดต้องแจ้งความดำเนินคดีกับตัวเองในข้อหาฉ้อโกง ทั้งที่มีใบเสนอราคา” ดังนั้นคำพูดนี้เป็นการบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นการทำข้อตกลง จึงเชื่อได้ว่า น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ไม่ได้ให้เงินทนายตั้มด้วยความเสน่หาแน่นอน

น.ส.บุญยนุช ยังระบุอีกว่า ไม่คิดว่าทนายตั้มจะกล้าไปยุ่งเกี่ยวกับเงินของคนอื่นขนาดนี้ เพราะคนที่มีอาชีพเป็นทนายความควรจะต้องยุ่งกับการว่าความ การเขียนสำนวน และการแก้ต่างในชั้นศาล

ข่าวยอดนิยม


ข่าวยอดนิยม